ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีที่ร่วงลงอย่างรวดเร็วตลอดเดือนกุมภาพันธ์กำลังเผชิญกับแรงกดดันเพิ่มเติม เมื่อราคาอีเธอเรียม(ETH) ลดลงต่ำกว่า 2,500 ดอลลาร์ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มขาลงที่อาจต่อเนื่อง โดยหนึ่งในปัจจัยที่ถูกมองว่าเป็นสาเหตุสำคัญคือ ‘การแฮ็ก’ มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ของกระดานเทรดไบบิต(Bybit) ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาด
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเตือนว่า อีเธอเรียมอาจเผชิญกับแนวโน้มขาลงเพิ่มเติม และในบางกรณีราคาอาจลดลงต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์ได้ เบนจามิน โคเวน(Benjamin Cowen) นักวิเคราะห์คริปโตชี้ให้เห็นว่ารูปแบบราคาที่คล้ายกันเคยเกิดขึ้นในอดีต และหากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคไม่ดีขึ้น การฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของ ETH อาจเป็นไปได้ยาก
หนึ่งในสาเหตุหลักของสถานการณ์นี้คือ นโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณของการเพิ่มสภาพคล่องในตลาด ทำให้นักลงทุนยังคงมีความกังวลอย่างมาก หากเฟดยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง ETH อาจร่วงลงต่ำกว่า 1,500 ดอลลาร์ และในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด อาจลงไปแตะ 1,000 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม มีบางเสียงที่เชื่อว่า ETH ยังมีโอกาสฟื้นตัวได้ TraderPA นักเทรดและนักวิเคราะห์คริปโต ระบุว่าราคาปัจจุบันของอีเธอเรียมกำลังทดสอบแนวรับที่สำคัญในประวัติศาสตร์ และเข้าสู่ภาวะ ‘ขายมากเกินไป’ ซึ่งหมายความว่าแรงกดดันในการขายอาจลดลง และทำให้เกิดการกลับตัวของราคาได้
แนวโน้มในอนาคตของ ETH จะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการเงินจากเฟด และทิศทางเศรษฐกิจโลก หากมีการลดอัตราดอกเบี้ยหรือมีมาตรการกระตุ้นสภาพคล่อง ETH อาจฟื้นตัวกลับไปที่ระดับ 3,500-4,000 ดอลลาร์ แต่ในระยะสั้น ความผันผวนของตลาดยังสูงอยู่ นักลงทุนจึงต้องใช้ความระมัดระวังในการตัดสินใจ
ความคิดเห็น 0