รัฐเคนตักกีพิจารณากฎหมายทุนสำรองบิตคอยน์(BTC) ร่วมขับเคลื่อนการนำสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่ระบบการลงทุนของสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 6 (เวลาท้องถิ่น) ธีโอดอร์ โจเซฟ โรเบิร์ตส์(Theodore Joseph Roberts) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐเคนตักกีได้เสนอร่างกฎหมาย ‘KY HB376’ ซึ่งหากผ่านการพิจารณา คณะกรรมการการลงทุนของรัฐ(State Investment Commission) จะสามารถนำงบประมาณส่วนเกินสูงสุด 10% ไปลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงบิตคอยน์ได้
แม้ว่าร่างกฎหมายไม่ได้ระบุชื่อสกุลเงินดิจิทัลโดยตรง แต่ได้กำหนดเงื่อนไขว่าสินทรัพย์นั้นต้องมีมูลค่าตลาดไม่น้อยกว่า 7,500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,087.5 ล้านล้านวอน) ซึ่งปัจจุบัน บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์เพียงรายการเดียวที่เข้าข่ายตามเงื่อนไขนี้ ขณะที่อีเธอเรียม(ETH) มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 3,300 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 478.5 ล้านล้านวอน) และต้องเติบโตมากกว่าสองเท่าเพื่อให้ผ่านเกณฑ์
ด้วยการเสนอร่างกฎหมายดังกล่าว เคนตักกีกลายเป็นรัฐที่ 16 ของสหรัฐฯ ที่เดินหน้าสร้างทุนสำรองบิตคอยน์ เช่นเดียวกับรัฐแอริโซนา, อลาบามา, ฟลอริดา, มิสซูรี, นิวแฮมป์เชียร์, นอร์ทดาโคตา, โอไฮโอ, โอกลาโฮมา, เพนซิลเวเนีย, เท็กซัส, ยูทาห์, แคนซัส และไวโอมิง
แอนดี เหลียน(Anndy Lian) ผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชน ระบุว่า บทบาทของรัฐเคนตักกีอาจเป็น ‘แบบอย่าง’ ในการนำทุนสำรองบิตคอยน์เข้าสู่ระดับประเทศ นอกจากนี้ การตัดสินใจของสำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ(SEC), ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) และสภาคองเกรส อาจถูกเร่งให้พิจารณาเรื่องการยอมรับบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์สำรองอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่า ‘ความผันผวนของบิตคอยน์’ อาจเป็นภาระต่อการเงินของรัฐ และอาจก่อให้เกิดความกังวลด้านการกำกับดูแลและการคุ้มครองผู้บริโภค
ข้อเสนอนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่รัฐอิลลินอยส์ประกาศแผนการถือบิตคอยน์ขั้นต่ำเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความสนใจในสินทรัพย์ดิจิทัลระดับรัฐกำลังเพิ่มขึ้น การเคลื่อนไหวนี้อาจกระตุ้นให้สถาบันการเงินต่างๆ เข้ามาสำรวจโอกาสการลงทุนเพิ่มเติม
เหลียนกล่าวเสริมว่า "ร่างกฎหมายของเคนตักกีแสดงถึง ‘ความเชื่อมั่นอันแข็งแกร่ง’ ต่อบิตคอยน์ และอาจผลักดันให้รัฐอื่นหรือแม้แต่ประเทศต่างๆ รับแนวทางเดียวกัน" อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่า "การนำบิตคอยน์มาใช้ในระดับรัฐจะต้องมีระบบ ‘การดูแลสินทรัพย์ที่ปลอดภัย’ การป้องกันความเสี่ยงทางไซเบอร์ และกลยุทธ์การถอนการลงทุนที่รอบคอบ"
ความคิดเห็น 0