SEC ยุติอุทธรณ์คดีริปเปิล(XRP) ดันราคาพุ่ง 9% ในชั่วโมงเดียว

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้ตัดสินใจยกเลิกการอุทธรณ์ในคดีของริปเปิล(XRP) ซึ่งทำให้ชุมชนริปเปิลมองว่าเป็น "ชัยชนะครั้งสำคัญ" อย่างไรก็ตาม กรอบกฎหมายที่ชัดเจนสำหรับอุตสาหกรรมคริปโตโดยรวมยังคงเป็นเรื่องที่ต้องรอการกำหนดอีกต่อไป

แบรด การ์ลิงเฮาส์ ซีอีโอของริปเปิลกล่าวว่าการตัดสินใจนี้ "สร้างความเชื่อมั่นให้กับริปเปิลเป็นอย่างมาก" แม้ว่าจะยังมีประเด็นที่ต้องสะสางกับ SEC ต่อไป สจวร์ต อัลเดอรอตี หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของริปเปิลกล่าวเสริมว่า "ริปเปิลแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม" และถือว่าคดีนี้เป็น "บรรทัดฐานที่สำคัญ" สำหรับอุตสาหกรรมคริปโตในสหรัฐฯ

ทั้งนี้ การยกเลิกการอุทธรณ์ของ SEC ส่งผลให้ราคา XRP พุ่งขึ้นทันทีถึง 9% ภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากการประกาศ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระบุว่าคำตัดสินครั้งนี้ "ไม่ได้เป็นบรรทัดฐานทางกฎหมายที่มีผลผูกพันอย่างเป็นทางการ" ไบรอัน เกรซ ที่ปรึกษากฎหมายของ เมทาเฟล็กซ์ DAO กล่าวว่า "นี่เป็นเพียงความคิดเห็นของผู้พิพากษาศาลชั้นต้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้เป็นแบบอย่างผูกมัดสำหรับคดีอื่น ๆ ได้"

ในส่วนของผลกระทบต่อกฎหมายคริปโตในสหรัฐฯ นั้น นักวิเคราะห์มองว่าอาจมีข้อจำกัดอยู่มาก เนื่องจากอุตสาหกรรมยังคงต้องการให้สภาคองเกรสออกกฎหมายที่ชัดเจน อารอน โบรแกน ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลกล่าวว่า "การตัดสินใจของ SEC ไม่น่าจะส่งผลโดยตรงต่อกระบวนการออกกฎหมายของสภาคองเกรส" อย่างไรก็ตาม เขามองว่า "ถ้า SEC สามารถสร้างความชัดเจนด้านกฎระเบียบได้เอง อาจส่งผลในเชิงบวกต่อการพิจารณาของสภา"

ด้านการ์ลิงเฮาส์มองว่าการต่อสู้ทางกฎหมายกับ SEC อาจยังไม่สิ้นสุด และริปเปิล "อาจพิจารณาการยื่นอุทธรณ์กลับ" ขณะที่ในคำตัดสินเมื่อปี 2023 ระบุว่า XRP ที่ขายในตลาดเปิด "ไม่ถือเป็นหลักทรัพย์" แต่การขายให้แก่นักลงทุนสถาบันถูกตัดสินว่าผิดกฎหมาย และริปเปิลต้องจ่ายค่าปรับ 125 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,600 ล้านบาท) การ์ลิงเฮาส์กล่าวว่า "เราจำเป็นต้องพิจารณาว่าจะสามารถเรียกเงินค่าปรับกลับคืนได้หรือไม่"

ขณะนี้ สภาคองเกรสอยู่ระหว่างกระบวนการออกกฎหมายควบคุมคริปโต โดยมีร่างกฎหมายเกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์อยู่ในระหว่างการพิจารณา นักวิเคราะห์บางส่วนคาดการณ์ว่ากฎหมายเหล่านี้อาจบรรลุผลภายในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งระหว่าง SEC และอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลอาจยังไม่ยุติ จนกว่าจะมีกฎระเบียบที่ชัดเจนและครอบคลุมมากขึ้น