โซนิค(Sonic) เปิดตัวอัลกอริธึมสเตเบิลคอยน์ ท่ามกลางความกังวลซ้ำรอยเทรา-ลูน่า

โซนิค(Sonic) บล็อกเชนเปิดตัว ‘อัลกอริธึมสเตเบิลคอยน์’ ใหม่ ดึงดูดความสนใจของตลาด แต่ในขณะเดียวกัน ก็กระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับ ‘บาดแผล’ ในอุตสาหกรรมคริปโตที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ ‘เทรา-ลูน่า’ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2022

อังเดร ครอนเย(Andre Cronje) ผู้ร่วมก่อตั้งโซนิค และผู้ก่อตั้งเยิร์นไฟแนนซ์(Yearn.finance) เปิดเผยเมื่อวันที่ 22 ผ่านทาง X (เดิมคือ Twitter) เกี่ยวกับผลการทดสอบอัลกอริธึมสเตเบิลคอยน์ที่ให้ผลตอบแทนต่อปี (APR) สูงถึง 23% พร้อมระบุว่า หากสามารถรวบรวมเงินฝากมูลค่าถึง 1 พันล้านดอลลาร์ อัตราผลตอบแทนจะ ‘มีเสถียรภาพ’ ที่ระดับประมาณ 4.9% ซึ่งบ่งชี้ถึงศักยภาพในการขยายตัวของโปรเจกต์

อย่างไรก็ตาม ครอนเยยังคงแสดงความระมัดระวังเกี่ยวกับฟีดแบ็กของอัลกอริธึมสเตเบิลคอยน์ โดยกล่าวว่า แม้ทีมพัฒนาเชื่อว่าพวกเขาได้แก้ไขปัญหาหลักของโมเดลนี้แล้ว แต่ด้วยบาดแผลในอดีตจากรอบตลาดก่อนหน้านี้ ทำให้ตนยังไม่สามารถมั่นใจได้ 100% ในการนำไปใช้งานจริง

ย้อนกลับไปในปี 2022 ระบบนิเวศของเทรา(Terra) ซึ่งมีมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ต้องเผชิญกับความล่มสลายหลังจาก ‘เทราUSD(UST)’ ซึ่งเป็นอัลกอริธึมสเตเบิลคอยน์สูญเสียการตรึงมูลค่า (depegging) โดย UST เคยให้ผลตอบแทนต่อปีสูงกว่า 20% ผ่านแพลตฟอร์มแองเคอร์โปรโตคอล(Anchor Protocol) แต่เมื่อกลไกหลักพังทลาย มูลค่าของมันก็ร่วงลงไปถึง 0.30 ดอลลาร์ ขณะที่ ‘ลูน่า(LUNA)’ ซึ่งเป็นโทเคนหลักของระบบนิเวศ ลดลงจาก 120 ดอลลาร์เหลือเพียง 0.84 ดอลลาร์ สูญเสียมูลค่ากว่า 98%

แม้หลายฝ่ายยังไม่ฟื้นคืนความเชื่อมั่นในโมเดลอัลกอริธึมสเตเบิลคอยน์นับตั้งแต่เหตุการณ์เทรา แต่โซนิคยังคงเดินหน้าด้วยแนวทางที่แตกต่าง โดยเน้นศักยภาพด้านเทคนิคของบล็อกเชนที่พัฒนาให้รองรับ ‘ความเร็วในการสรุปธุรกรรม’ ได้ภายใน 720 มิลลิวินาที(ms) พร้อมกับการทำงานบน ‘อีเธอเรียมเวอร์ชวลแมชชีน(EVM)’ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสร้างความแตกต่าง

ในขณะเดียวกัน สหภาพยุโรป(EU) ได้ออกกฎหมาย ‘MiCA’ หรือ ‘ระเบียบตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล’ ซึ่งมุ่งจำกัดการออกอัลกอริธึมสเตเบิลคอยน์ เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นซ้ำรอยเหตุการณ์ในอดีต ตอนนี้ตลาดกำลังจับตามองว่า โซนิคจะสามารถพลิกแนวคิดเก่าให้กลายเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีเสถียรภาพได้หรือไม่