ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
บิตคอยน์(BTC) ยังคงสร้างความสนใจในตลาดหลังสามารถยืนเหนือระดับ ‘8 หมื่นดอลลาร์’ (ประมาณ 1.17 ล้านบาท) ได้ แม้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงแรงและภาวะผันผวนรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา โดยหลังจากเหตุการณ์ตลาดหุ้นทรุดเมื่อวันที่ 3 และ 4 การปรับฐานของบิตคอยน์นั้นยังค่อนข้างจำกัด สะท้อนถึง ‘แรงซื้อสะสม’ ของนักลงทุนที่ยังแสดงพฤติกรรมเข้าซื้อเมื่อราคาตก
ชนวนสำคัญของความปั่นป่วนในครั้งนี้ คือการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาตรการ ‘ภาษีตอบโต้ทางการค้า’ เมื่อวันที่ 2 ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งบริหารเรียกเก็บภาษีตอบโต้กับบางประเทศ และในอีกสองวันถัดมา จีนประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐทุกประเภทอีก 34% โดยเริ่มมีผลในวันที่ 10 ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงเฉียบ และมูลค่าตลาดหายไปถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,332 ล้านล้านวอน)
ปฏิกิริยาต่อแนวโน้มดังกล่าวมีความเห็นแตกต่างกัน อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) ผู้ร่วมก่อตั้งบิทเม็กซ์(BitMEX) เชื่อว่า สถานการณ์นี้ถือเป็น ‘ข่าวดีระยะกลาง’ สำหรับ ‘ทองคำและบิตคอยน์’ โดยอธิบายว่าความตึงเครียดทางการค้าและเศรษฐกิจที่เปราะบางอาจกระตุ้นให้เกิด ‘กระแสเงินไหลเข้า’ สู่สินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมกล่าวว่า “ผมรักภาษีศุลกากร”
ในทางกลับกัน นักวิเคราะห์อย่างไบแซนไทน์ เจเนอรัล(Byzantine General) เตือนผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า ภาวะสงครามภาษีตอบโต้ที่ยืดเยื้ออาจเพิ่ม ‘ความไม่แน่นอนในตลาด’ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลลดลง และอาจทำให้ราคาไม่สามารถปรับตัวขึ้นต่อได้
ขณะที่ ชาร์ลส เอ็ดเวิร์ดส์(Charles Edwards) ผู้ก่อตั้งคาฟริโอล อินเวสต์เมนต์ มองว่า ระดับราคา ‘9.1 หมื่นดอลลาร์’ (ประมาณ 1.33 ล้านบาท) คือจุดที่บิตคอยน์ต้องผ่านให้ได้เพื่อกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น หากทำไม่ได้ก็อาจเห็นราคาย่อลงไปสู่จุดต่ำก่อนหน้าใกล้ระดับ ‘7.1 หมื่นดอลลาร์’ (ประมาณ 1.04 ล้านบาท)
ด้านเทคนิค หากบิตคอยน์รักษาระดับ ‘8 หมื่นดอลลาร์’ ได้ ราคามีโอกาสพ้นช่วงการปรับฐานในระยะสั้นไปได้ และหากทะลุระดับ ‘8.85 หมื่นดอลลาร์’ (ประมาณ 1.29 ล้านบาท) ก็อาจกลับมาได้รับ ‘แรงขับเคลื่อนเชิงบวก’ แต่หากซื้อขายต่ำกว่าระดับดังกล่าว ก็อาจร่วงกลับไปสู่ระดับ ‘7.66 หมื่นดอลลาร์’ หรือลึกถึง ‘7.37 หมื่นดอลลาร์’
ท่ามกลางคลื่นความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจ บิตคอยน์ดูเหมือนจะกลับมาได้รับการยอมรับในฐานะ ‘ทองคำดิจิทัล’ อีกครั้ง ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผู้ลงทุนบางส่วนยังคงมองหาทางเลือกปลอดภัยในภาวะวิกฤติ ทั้งนี้ ท่าทีของทรัมป์ด้านนโยบายเศรษฐกิจและผลกระทบต่อเวทีโลกจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางของตลาดคริปโตในช่วงต่อไป
ความคิดเห็น 0