SEC เคลียร์ชัด! สเตเบิลคอยน์ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกันอย่าง USDC และ USDT ไม่จัดเป็นหลักทรัพย์

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐ(SEC) ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ‘สเตเบิลคอยน์แบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน’ ซึ่งผูกกับเงินดอลลาร์สหรัฐ จะ *ไม่ถูกจัดประเภทเป็นหลักทรัพย์* ส่งผลให้สเตเบิลคอยน์ที่มีโครงสร้างการจับคู่แบบ 1:1 กับสินทรัพย์จริงอย่าง USD Coin(USDC) และ เทเธอร์(USDT) ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนกับ SEC ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความชัดเจนทางกฎหมายสำหรับตลาดคริปโต และระบบการชำระเงินดิจิทัลที่ใช้สเตเบิลคอยน์

เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) SEC ระบุว่า สเตเบิลคอยน์ประเภทนี้ควรถูกมองเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการรักษาเสถียรภาพของมูลค่า โดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเกิน 100% ด้วยเงินเฟียต หรือสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เช่น เงินดอลลาร์ ทั้งยังออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมือทางการเงินในการ *ชำระเงิน โอนเงิน และเก็บรักษามูลค่า* มากกว่าจะเป็นเครื่องมือการลงทุน เพราะไม่มีการจ่ายเงินปันผลหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลกำไรของผู้ออกเหรียญหรือบุคคลที่สามแต่อย่างใด

ผลจากการตีความครั้งนี้ ทำให้เหรียญอย่าง USDC ซึ่งออกโดยบริษัทเซอร์เคิล และ USDT ซึ่งออกโดยบริษัทเทเธอร์ พ้นจากการจัดประเภทเป็น ‘หลักทรัพย์’ ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ปี 1933 และพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์ปี 1934 ผู้เข้าร่วมในกระบวนการออกเหรียญ (minting) หรือการแลกคืนเหรียญ (redeeming) จึง *ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนกับ SEC*

SEC ยังชี้ว่า แม้ราคาของสเตเบิลคอยน์อาจเบี่ยงเบนจากราคาการแลกคืนในบางช่วง แต่ด้วยโครงสร้างที่เปิดให้มีการแลกคืนและออกเหรียญไม่จำกัด ประกอบกับบทบาทของผู้เล่นในตลาดที่ดำเนินการเก็งกำไรในลักษณะอาร์บิทราจ จะช่วยให้ราคากลับเข้าสู่มูลค่าที่แท้จริงโดยอัตโนมัติ

อย่างไรก็ตาม กฎนี้จะ *ไม่ครอบคลุม* สเตเบิลคอยน์ที่มีกลไกจ่ายดอกเบี้ยหรือให้ผลตอบแทนจากการลงทุน โดยก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ SEC เคยเปิดเผยว่า สเตเบิลคอยน์บางรูปแบบที่มีโครงสร้างเชิงผลตอบแทนจะยังถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ของหลักทรัพย์ ซึ่งยืนยันว่า *การกำกับดูแลจะขึ้นอยู่กับลักษณะเศรษฐกิจของเหรียญ*

ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมคริปโตรายหนึ่งให้ *ความคิดเห็น* ว่า “ตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง ความเคลื่อนไหวเพื่อสร้างความชัดเจนด้านกฎระเบียบและการส่งเสริมอุตสาหกรรมเริ่มชัดเจนมากขึ้น” พร้อมเสริมว่า การประกาศล่าสุดของ SEC นี้ “ถือเป็นสัญญาณบวกต่อผู้พัฒนาเหรียญสเตเบิลคอยน์ และระบบนิเวศทางการเงินที่อิงกับดีไฟ(DeFi) และการชำระเงินแบบออนเชนอีกด้วย”