Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

หลายรัฐในสหรัฐฯ เร่งพิจารณาบิตคอยน์(BTC) เป็นสินทรัพย์สำรอง อาจจุดกระแสสะสม BTC ทั่วโลก

Sun, 09 Feb 2025, 21:11 pm UTC

หลายรัฐในสหรัฐฯ เร่งพิจารณาบิตคอยน์(BTC) เป็นสินทรัพย์สำรอง อาจจุดกระแสสะสม BTC ทั่วโลก / Tokenpost

หลายรัฐในสหรัฐฯ เริ่มพิจารณาให้บิตคอยน์(BTC) เป็น ‘สินทรัพย์สำรอง’ มากขึ้น ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่าอาจมีการแข่งขันสะสมบิตคอยน์ในระดับโลก

เมื่อวันที่ 6 (เวลาท้องถิ่น) ตามรายงานของ CoinTelegraph รัฐเคนตักกีกลายเป็นรัฐที่ 16 ของสหรัฐฯ ที่เสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับสินทรัพย์สำรองดิจิทัล โดยระบุว่ารัฐสามารถจัดสรร ‘สินทรัพย์ส่วนเกิน’ ได้สูงสุด 10% ในรูปแบบของบิตคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทอื่น

ไอแซค โจชัว ซีอีโอของ Gems Launchpad แพลตฟอร์มสตาร์ทอัปด้านคริปโต กล่าวว่าบิตคอยน์กำลังกลายเป็น ‘สินทรัพย์สำรองหลัก’ มากขึ้น เขามองว่าหากร่างกฎหมายของเคนตักกีผ่านสภา จะจุดประกายให้เกิด ‘การแข่งขันสะสมบิตคอยน์’ ทั่วโลก พร้อมเสริมว่า “หากมีรัฐใดรัฐหนึ่งประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวจริง มันอาจนำไปสู่ ‘เอฟเฟกต์โดมิโน’ ทำให้รัฐอื่นๆ ทำตาม”

แนวโน้มดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมกับที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการจัดการสินทรัพย์ในสหรัฐฯ ยังคงถือครองบิตคอยน์ในปริมาณมาก ปัจจุบัน กองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอตในสหรัฐฯ ถือครองบิตคอยน์กว่า 5.91% ของซัพพลายทั้งหมด รวมมูลค่าประมาณ 1.135 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.15 ล้านล้านบาท) โดยกองทุนของ BlackRock มีส่วนแบ่งสูงที่สุดที่ 48.7% หรือคิดเป็นการบริหารสินทรัพย์ BTC มูลค่าประมาณ 5.53 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.02 ล้านล้านบาท)

การไหลเข้าของเงินลงทุนใน ETF บิตคอยน์อาจเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาพุ่งสูงขึ้น โดยในปี 2024 เพียงปีเดียว กองทุนเหล่านี้มีส่วนแบ่งสูงถึง 75% ของเม็ดเงินลงทุนใหม่ในบิตคอยน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยดันราคา BTC ทะลุระดับ 50,000 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์

อย่างไรก็ตาม การนำบิตคอยน์มาใช้เป็นสินทรัพย์สำรองยังมีข้อกังวลด้าน ‘กฎระเบียบ’ และ ‘ความผันผวน’ เจมส์ วู ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง DFG บริษัทด้านร่วมลงทุน (VC) เตือนว่าถึงแม้แนวคิดเรื่อง ‘การแข่งขันสะสมบิตคอยน์’ จะดูน่าสนใจ แต่ร่างกฎหมายที่ถูกเสนอขึ้นในขณะนี้ ยังเป็นเพียง ‘ข้อเสนอ’ เท่านั้น และยังไม่มีร่างใดที่ผ่านการรับรองอย่างเป็นทางการ

“บางรัฐอาจเดินหน้าต่อ แต่ต้องไม่ลืมว่านโยบายการคลังที่เข้มงวดและปัญหาความผันผวนของบิตคอยน์ อาจเป็นอุปสรรคในกระบวนการออกกฎหมาย” วูกล่าว

รัฐที่พิจารณาใช้บิตคอยน์เป็น ‘สินทรัพย์สำรองเชิงกลยุทธ์’ ในขณะนี้ได้แก่ เคนตักกี, แอริโซนา, แอละแบมา, ฟลอริดา, แมสซาชูเซตส์, มิสซูรี, นิวแฮมป์เชียร์, นอร์ทดาโคตา, เซาท์ดาโคตา, โอไฮโอ, โอกลาโฮมา, เพนซิลเวเนีย, เท็กซัส, ยูทาห์, แคนซัส และไวโอมิง

นอกจากนี้ ความผันผวนของบิตคอยน์ยังเป็นประเด็นถกเถียงสำคัญ ในปี 2022 ราคาของ BTC ร่วงลงกว่า 64% และในปี 2018 เคยลดลงมากถึง 73% ซึ่งทำให้บางสถาบันเลือกใช้กลยุทธ์ถือครองระยะยาวเพื่อบริหารความเสี่ยง เช่น มหาวิทยาลัยออสตินที่วางแผนสะสมบิตคอยน์ในระยะยาว ขณะที่ร่างกฎหมายฉบับใหม่ของรัฐอิลลินอยส์ก็ระบุว่า รัฐต้องถือครอง BTC อย่างน้อย 5 ปี

แม้แนวโน้มการใช้บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์สำรองอาจช่วยผลักดันให้ตลาดคริปโตได้รับการยอมรับในระดับสถาบันมากขึ้น แต่ตราบใดที่อุปสรรคด้านกฎระเบียบยังไม่ได้รับการแก้ไข การเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมอาจยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววัน

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1