ทรัมป์โทเคนเตรียมปลดล็อก 40 ล้านเหรียญ 18 เม.ย.นี้ เสี่ยงเทขายกดดันตลาดคริปโต

โทเคนมีมอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีทรัมป์เตรียมเข้าสู่ตลาดในวันที่ 18 เมษายนนี้ โดยมีมูลค่ารวมกว่า 3.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 468 ล้านบาท ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันด้านราคาครั้งใหญ่ในตลาดคริปโต

ตามข้อมูลจากแพลตฟอร์ม Tokenomist ทรัมป์โทเคนจำนวน 40 ล้านเหรียญจะถูกปลดล็อกในรูปแบบ ‘Cliff Unlock’ ซึ่งหมายถึงการปลดปล่อยโทเคนทั้งหมดเข้าสู่ตลาดทันที หากอิงจากราคาปัจจุบันที่ประมาณ 8 ดอลลาร์ โทเคนเหล่านี้มีมูลค่ารวมประมาณ 3.21 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทั้งหมดจะขายได้ในวันเดียวกัน

การปลดล็อกโทเคน (Token Vesting) ถือเป็นกลไกที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันแรงขายระยะสั้น โดยให้ผู้ถือโทเคนได้รับเหรียญแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่การปลดล็อกแบบ ‘Cliff’ ซึ่งเกิดขึ้นทั้งหมดในคราวเดียว อาจเพิ่มความเสี่ยงด้านราคาตกอย่างรุนแรง ความเห็นจากนักวิเคราะห์หลายรายระบุว่า สถานการณ์แบบนี้มักนำไปสู่ ‘ภาวะอิ่มตัว’ ของตลาดจากฝั่งอุปทาน

แม้จะโปรโมตว่าเป็นโทเคนที่ได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์โดยตรง ราคาของเหรียญกลับลดลงถึง 89% จากจุดสูงสุดที่ 73.43 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 19 มกราคม ก่อนวันสาบานตนของทรัมป์ ซึ่งตอนนี้ลดลงเหลือเพียง 8 ดอลลาร์เท่านั้น ข้อมูลจาก Chainalysis เผยว่ามีวอลเล็ตราว 813,000 ใบที่ประสบภาวะขาดทุน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 2.92 ล้านล้านบาท

เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อาร์บิเทรัม(Arbitrum) เคยปลดล็อกโทเคน ARB มูลค่ากว่า 2.32 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้ราคาเหรียญร่วงจาก 1.89 ดอลลาร์ เหลือเพียง 0.29 ดอลลาร์ภายในเวลาไม่นาน หรือคิดเป็นการลดลงราว 84%

สำหรับสัปดาห์วันที่ 14-20 เมษายน การปลดล็อกทรัมป์โทเคนครองสัดส่วนสูงที่สุดถึง 61% จากทั้งหมดที่มีการปลดออกสู่ตลาดในสัปดาห์นั้น คิดเป็นมูลค่ารวม 5.19 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นอย่าง แพสโทเคน(FTN), อาร์บิเทรัม และสตาร์กเน็ต(Starknet) ที่จะปลดโทเคนมูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์, 2,700 ล้านดอลลาร์ และ 1,600 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ โดยโทเคนส่วนใหญ่จัดสรรให้กับทีมพัฒนา ผู้ก่อตั้ง และนักลงทุนรายแรก

ในภาพรวม ตลาดเห็นว่าแม้ทรัมป์โทเคนจะมี ‘ความหมายเชิงการเมือง’ และมีพลังในแง่ของแบรนด์ทรัมป์ แต่การดิ่งลงต่อเนื่องของมูลค่าทำให้มันกลายเป็นกรณีศึกษาสำคัญเรื่องความเสี่ยงสำหรับนักลงทุนรายย่อย "ความคิดเห็น" จากผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโตรายหนึ่งกล่าวว่า “ตอนเปิดตัว ทรัมป์โทเคนนั้นเป็นที่สนใจจากภาพลักษณ์และความเป็นมีม แต่ด้วยพื้นฐานที่อ่อนแอ หากมีการขายโทเคนขนาดใหญ่อีก อาจเกิดคลื่นของการเทขายอีกครั้ง”