ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) เดินเกมเชิงกลยุทธ์: 'สแตรทิจี(Strategy)' ซื้อบิตคอยน์(BTC) เป็นครั้งแรกหลังเปลี่ยนชื่อจากไมโครสแตรทิจี(MicroStrategy)
ไมโครสแตรทิจี บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทุ่มเงินซื้อบิตคอยน์มาโดยตลอด ได้ดำเนินการซื้อบิตคอยน์ล็อตใหญ่เป็นครั้งแรกภายใต้ชื่อบริษัทใหม่ ‘สแตรทิจี’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการบริหารทรัพย์สินในระยะยาว
ตามเอกสาร 8-K ที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ (เวลาท้องถิ่น) สแตรทิจีได้ซื้อบิตคอยน์จำนวน 7,633 BTC ระหว่างวันที่ 3-9 กุมภาพันธ์ ที่ราคาเฉลี่ย 97,255 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ซึ่งถือเป็นการยืนยันถึงกลยุทธ์ทางการเงินที่มุ่งเน้นบิตคอยน์เป็นศูนย์กลางของบริษัท
นับตั้งแต่เริ่มต้นการซื้อบิตคอยน์ในเดือนสิงหาคม ปี 2020 บริษัทมีการถือครองบิตคอยน์รวมทั้งสิ้น 478,740 BTC โดยมีราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 65,033 ดอลลาร์ต่อเหรียญ การซื้อครั้งล่าสุดช่วยเพิ่มปริมาณบิตคอยน์ในพอร์ตของบริษัท พร้อมตอกย้ำแนวทางระยะยาวที่ชัดเจน
ในช่วงวันที่ 1 มกราคมถึง 9 กุมภาพันธ์ อัตราผลตอบแทนจากการถือครองบิตคอยน์ของสแตรทิจีอยู่ที่ 4.1% ซึ่งต่ำกว่าผลตอบแทนสะสมของปี 2024 ที่ 74.3% อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาตามเป้าหมายผลตอบแทนรายปีที่ตั้งไว้ที่ 15% ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
ในปีนี้ สแตรทิจีได้เพิ่มการถือครองบิตคอยน์อีก 32,340 BTC ซึ่งคิดเป็นประมาณ 7% ของจำนวนบิตคอยน์ทั้งหมดของบริษัท โดยเงินทุนที่ใช้ในการซื้อครั้งนี้มาจากการออกหุ้นกู้แปลงสภาพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผน ‘21/21’ ที่ตั้งเป้าระดมทุนสูงถึง 21,000 ล้านดอลลาร์ผ่านตราสารหนี้และหุ้นภายในสามปี เพื่อนำไปใช้ซื้อบิตคอยน์เพิ่มเติม
เกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อบริษัท แซมสัน โมว(Samson Mow) ซีอีโอของ Jan3 ให้ความเห็นว่า “ไมโครสแตรทิจี นั้นไม่ได้ดำเนินตามแนวคิด ‘Micro’ มาสักพักแล้ว แต่มีมุมมองกว้างระดับมหภาค ดังนั้นการเปลี่ยนชื่อเป็น ‘สแตรทิจี’ จึงเหมาะสมกับแนวทางของบริษัทมากขึ้น”
นักวิเคราะห์ในตลาดมองว่า การเข้าซื้อบิตคอยน์ของสแตรทิจีจะดำเนินต่อไป แม้จะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบและสถานการณ์ในตลาด ปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาแนวทางในการสะสมทุนสำรองด้วยบิตคอยน์ การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ของสแตรทิจีในครั้งนี้อาจมีบทบาทสำคัญต่อทิศทางของตลาดในระยะยาว
ความคิดเห็น 0