ประธาน SEC คนใหม่ส่งสัญญาณบวกต่อคริปโต เตรียมทบทวนกฎดูแลทรัพย์สินดิจิทัล

พอล แอทกินส์(Paul Atkins) ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) คนใหม่ แสดงจุดยืนสนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโตในการปรากฏตัวต่อสาธารณชนครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า *มีความเป็นไปได้ที่นโยบายด้านคริปโตจะเปลี่ยนแปลงได้* แม้อยู่ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ฉบับปัจจุบัน

การแสดงวิสัยทัศน์ครั้งนี้จัดขึ้นที่งานโต๊ะกลมเกี่ยวกับคริปโต ณ สำนักงานใหญ่ SEC วอชิงตัน เพียง 4 วันหลังจากที่แอทกินส์เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เขากล่าวว่า “ตลาดคริปโตถูกจำกัดการเติบโตมาอย่างยาวนาน และเราเห็นชัดแล้วว่าจำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างกฎระเบียบครั้งใหญ่” พร้อมย้ำว่าแม้จะยังไม่มีกฎหมายใหม่จากสภาคองเกรส แต่ SEC ก็สามารถดำเนินนโยบายบางอย่างได้ด้วยตนเองภายใต้กรอบกฎหมายที่มีอยู่

แอทกินส์ระบุว่า SEC เตรียม *ทบทวนกฎระเบียบที่เกี่ยวกับนายหน้าคริปโตและการดูแลทรัพย์สินดิจิทัล (custody)* ขณะที่ยังแสดงความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยกล่าวว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย เสริมความโปร่งใส และปรับปรุงการบริหารความเสี่ยง

นอกจากนี้ เขายังกล่าวยกย่อง เฮสเตอร์ เพียร์ซ(Hester Peirce) กรรมาธิการ SEC ที่มีฉายาว่า ‘คริปโตมัม’ โดยระบุว่าเพียร์ซเป็นผู้สนับสนุนนโยบาย *คริปโตที่ฉลาดและสอดคล้องอย่างต่อเนื่อง* และเป็นบุคคลที่เหมาะสมในการพัฒนากฎเกณฑ์ที่โปร่งใสและเป็นธรรมต่ออุตสาหกรรม

งานโต๊ะกลมในครั้งนี้มีระยะเวลาครึ่งวันและจัดขึ้นไม่กี่สัปดาห์หลังจาก SEC ยุติข้อพิพาททางกฎหมายยาวนานกับบริษัท ริปเปิล(XRP) โดยมีผู้นำในอุตสาหกรรมคริปโต เจ้าหน้าที่กำกับดูแล และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเข้าร่วม เพื่อหารือเรื่องสำคัญอย่างประเด็นด้าน *การเก็บรักษาทรัพย์สินดิจิทัล* ซึ่งที่ผ่านมาเป็นหัวข้อที่ SEC ต้องพิจารณาอย่างละเอียด โดยเฉพาะในช่วงของประธานคนก่อนอย่าง แกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) ที่ผลักดันให้ที่ปรึกษาการลงทุนสามารถใช้เฉพาะสถาบันรับฝากที่ได้รับการอนุมัติเท่านั้น ซึ่งถูกมองว่าเป็นการ *จำกัดบทบาทของแพลตฟอร์มคริปโตส่วนใหญ่* อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวยังถูกระงับไว้ชั่วคราว

*ความคิดเห็น:* การเปลี่ยนผ่านตำแหน่งผู้นำใน SEC อาจนำมาสู่ท่าทีที่เป็นมิตรมากขึ้นต่อคริปโต โดยเฉพาะเมื่ออุตสาหกรรมเพิ่งมีบทบาทในการสนับสนุนชัยชนะของประธานาธิบดีทรัมป์ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา อุตสาหกรรมคริปโตที่ *ต้องเผชิญกับแรงกดดันต่อเนื่องในยุคไบเดน* แสดงท่าทีสนับสนุนทีมงานที่ส่งสัญญาณชัดว่าอาจเปิดรับนโยบายที่เอื้อต่อการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น