สหรัฐฯ ล่มร่างกฎหมายสเตเบิลคอยน์ GENIUS Act เหตุการเมืองเล่นพรรคพวกขัดขวางนวัตกรรมคริปโต

ทิม สก็อตต์ ประธานคณะกรรมาธิการธนาคารวุฒิสภาสหรัฐฯ กล่าวโทษการเมืองแบบแบ่งพรรคพวกว่าเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ร่างกฎหมาย ‘นวัตกรรมสเตเบิลคอยน์สหรัฐฯ’ (GENIUS Act) ไม่สามารถผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภา

เมื่อวันที่ 8 (เวลาท้องถิ่น) สก็อตต์กล่าวต่อสภาวุฒิสภาว่า เขาเคยคาดหวังว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนที่ช่วยให้เกิด *นวัตกรรมในวงการคริปโตและเพิ่มการเข้าถึงทางการเงิน* ผ่านการใช้ *สเตเบิลคอยน์* แต่กลับผิดหวังที่ประเด็นทางการเมืองกลับกลายเป็นอุปสรรคสำคัญ โดยเขาระบุว่า “เรากำลังเผชิญกับพฤติกรรมทางการเมืองที่น่าผิดหวัง ซึ่งเลือกที่จะเล่นการเมืองมากกว่าขับเคลื่อนนโยบาย และเลือกขัดขวางมากกว่าส่งเสริมนวัตกรรม”

ร่างกฎหมายดังกล่าวเคยผ่านการแก้ไขหลายประเด็นเพื่อบรรเทาความกังวลจากพรรคเดโมแครต โดยเฉพาะเรื่องการ *ป้องกันการฟอกเงิน* และ *การกำกับคุณสมบัติของผู้ออกเหรียญ* ในระหว่างกระบวนการภายในคณะกรรมาธิการ ฯ มีการเห็นพ้องต้องกันจากทั้งสองฝ่าย ทว่าเมื่อเข้าสู่การลงมติในสภาเต็มรูปแบบ พรรคเดโมแครตกลับแสดงท่าทีคัดค้านอย่างชัดเจนจนทำให้ร่างกฎหมายถูกปัดตก

สก็อตต์ยังอ้างอีกด้วยว่าการโหวตคว่ำร่างกฎหมายในครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของกฎหมาย แต่เป็นกลยุทธ์ทางการเมืองที่มีเป้าหมายเพื่อต่อต้านความสำเร็จของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* โดยระบุว่า “นี่ไม่ใช่การโหวตเพื่อตัวบทกฎหมาย แต่เป็นการโหวตเพื่อต้านทรัมป์และนโยบายสินทรัพย์ดิจิทัลของเขาโดยเฉพาะ”

ประเด็นเรื่อง *USD1* ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ที่ *เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีทรัมป์* ก็กลายเป็นศูนย์กลางการโต้เถียงในสภาเช่นกัน อลิซาเบธ วอร์เรน วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต กล่าวหา USD1 ว่าเป็น “เครื่องมือส่งเสริมการคอร์รัปชัน” โดยหยิบยกกรณีการทำธุรกรรมระหว่างบริษัทยูเออีและ *ไบแนนซ์* ผ่าน USD1 เป็นตัวอย่าง วอร์เรนย้ำว่า “กฎหมายที่เอื้อต่อธุรกรรมลับๆ แบบนี้ ไม่ควรปล่อยให้ผ่านสภาในสัปดาห์นี้”

กระแสความขัดแย้งยิ่งรุนแรงขึ้นหลังจากมีรายงานว่าเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน บริษัท MGX จากกรุงอาบูดาบีได้ลงทุนจำนวน *2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ* (ประมาณ 2.92 แสนล้านบาท) ในไบแนนซ์ ผ่าน USD1 เพียงในคืนเดียว ทำให้มูลค่าตลาดของ USD1 พุ่งจาก *137 ล้านดอลลาร์* สู่ *2.13 พันล้านดอลลาร์* (ประมาณ 3.11 แสนล้านบาท) ความผันผวนดังกล่าวยิ่งเพิ่มข้อกังขาเกี่ยวกับบทบาทและแหล่งที่มาของเงินทุน

สถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งทั้งในแง่ *การเมืองและการกำกับดูแล* ทำให้แนวโน้มการพัฒนากฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลของสหรัฐฯ ต้องหยุดชะงักอีกครั้ง สิ่งที่หลายฝ่ายต้องจับตาคือว่าทรัมป์จะสามารถ *เดินหน้าผลักดันนโยบายโปรคริปโต* ได้ตามสัญญาหรือไม่ ท่ามกลางแรงกดดันจากทั้งในและนอกสภา