เงินเฟ้อสหรัฐสูงเกินคาด กดดันบิตคอยน์(BTC) ร่วงต่ำกว่า 95,000 ดอลลาร์

ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) สหรัฐเดือนมกราคมสูงกว่าคาดการณ์ กดดันราคาบิตคอยน์(BTC) ร่วงต่ำกว่า 95,000 ดอลลาร์ ข้อมูลเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดได้เพิ่มแรงขายในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลและบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน

ตามรายงานของสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐ อัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนมกราคม 2025 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ 0.1% ขณะที่รายเดือนเพิ่มขึ้น 0.5% สูงกว่าคาดการณ์ของดาวโจนส์ที่ 0.2% นับเป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนที่สูงที่สุดในรอบปี ส่งผลให้ตลาดลดความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)

ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาเรียกร้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยโพสต์ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Truth Social ว่า "การลดดอกเบี้ยควรมาควบคู่กับนโยบายภาษีศุลกากรใหม่ ถึงเวลาแล้วที่เศรษฐกิจสหรัฐต้องเดินไปข้างหน้า" อย่างไรก็ตาม ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ยืนยันว่าการตัดสินใจเชิงนโยบายจำเป็นต้องรอบคอบ โดยกล่าวว่า “เศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง ดังนั้นยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับนโยบาย"

นักวิเคราะห์สินทรัพย์ดิจิทัลมองว่า ผลกระทบของตัวเลขเงินเฟ้อครั้งนี้อาจไม่ส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจของเฟดในการประชุมเดือนมีนาคม บริษัทวิเคราะห์สินทรัพย์ดิจิทัล 'สเตโน รีเสิร์ช' ระบุว่า “เฟดอาจให้ความสำคัญกับตัวเลขอัตราการว่างงานที่จะเผยแพร่วันที่ 7 มีนาคม และดัชนีราคาการใช้จ่ายส่วนบุคคล(PCE) ที่คาดว่าจะประกาศในวันที่ 28 กุมภาพันธ์มากกว่า”

ในอีกด้านหนึ่ง มีการวิเคราะห์ว่านโยบายภาษีศุลกากรของรัฐบาลทรัมป์อาจช่วยลดแรงกดดันเงินเฟ้อได้ นิก เพอร์คริน ผู้ก่อตั้ง 'คอยน์ บิวโร' กล่าวว่า "การเพิ่มขึ้นของราคาผู้บริโภคครั้งนี้มีเหตุผลเชิงฤดูกาลเป็นหลัก มากกว่าจะเกี่ยวข้องกับนโยบายทางศุลกากร"

หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อประกาศออกมา บิตคอยน์เผชิญแรงขายเพิ่มเติม อาจทำให้ความผันผวนระยะสั้นเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม หากตลาดกลับมาคาดหวังการลดดอกเบี้ยอีกครั้ง อาจช่วยกระตุ้นกระแสเงินทุนเข้าสู่ตลาดคริปโตได้