คอยน์เช็ค(Coincheck) รายได้ไตรมาส 3 พุ่ง 75% แม้ยังขาดทุนกว่า 98 ล้านดอลลาร์

ตลาดซื้อขายคริปโต ‘คอยน์เช็ค(Coincheck)’ ของญี่ปุ่นประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปีนี้ (ตุลาคม-ธันวาคม) โดยรายได้เพิ่มขึ้น 75% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แตะระดับ 782 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.13 แสนล้านเยน) อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 98.1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.42 หมื่นล้านเยน) เนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานที่สูง

แกรี ซีแมนสัน(Gary Simanson) ซีอีโอของ ‘คอยน์เช็ค กรุ๊ป’ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของตลาดซื้อขายนี้ ระบุว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้รายได้เติบโตมาจากการควบรวมกิจการกับ ‘ซันเดอร์ บริดจ์ แคปิทอล(Thunder Bridge Capital)’ ซึ่งเป็นบริษัทจัดหาเพื่อวัตถุประสงค์พิเศษ (SPAC) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็กเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม หุ้นสามัญและใบสำคัญแสดงสิทธิ (warrant) ของคอยน์เช็คได้เริ่มซื้อขายในแนสแด็กภายใต้สัญลักษณ์ ‘CNCK’ และ ‘CNCKW’

บริษัทได้ประกาศแผนควบรวมผ่านดีล SPAC มูลค่า 1.25 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.81 แสนล้านเยน) ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 แต่กระบวนการล่าช้าจนสามารถดำเนินการได้สำเร็จเมื่อปลายปีที่แล้ว ส่งผลให้คอยน์เช็คสามารถระดมทุนได้ประมาณ 31.6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.57 พันล้านเยน)

‘คอยน์เช็ค’ ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 และเป็นหนึ่งในตลาดซื้อขายคริปโตชั้นนำของญี่ปุ่น ณ เดือนธันวาคมที่ผ่านมา แพลตฟอร์มมีผู้ใช้ที่ยืนยันตัวตนแล้วกว่า 2.2 ล้านราย และในตลาดโลก คอยน์เช็คอยู่ในอันดับที่ 66 โดยมีปริมาณการซื้อขายต่อวันประมาณ 120 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.74 หมื่นล้านเยน)

ย้อนกลับไปในเดือนมกราคม 2018 ‘คอยน์เช็ค’ เคยตกเป็นข่าวใหญ่จากเหตุแฮกมูลค่า 534 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7.72 หมื่นล้านเยน) ของเหรียญ ‘เนม(NEM)’ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ชดเชยความเสียหายให้ลูกค้าทั้งหมดและเดินหน้าดำเนินธุรกิจต่อไป โดยยังคงผลักดันแผนการเสนอขายหุ้น IPO เพื่อขยายฐานในตลาดคริปโตระดับโลก