บิตคอยน์(BTC) อาจกลายเป็นทรัพย์สินกลยุทธ์ของสหรัฐ หลังนายทหารหนุนแนวคิดรับมือจีน

วุฒิสมาชิกสหรัฐ ซินเธีย ลูมมิส(Cynthia Lummis) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนายทหารระดับสูงบางรายในกองทัพสหรัฐเริ่มสนับสนุนแนวคิดที่ให้บิตคอยน์(BTC) กลายเป็น ‘ทรัพย์สินกลยุทธ์แห่งชาติ’ ซึ่งสามารถเก็บสำรองไว้สำหรับการใช้งานในอนาคต โดยเธอกล่าวถึงประเด็นนี้ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg เมื่อวันที่ 24 ว่า สหรัฐควรพิจารณาใช้บิตคอยน์เป็นคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ในช่วงเวลาของ ‘สงครามเศรษฐกิจ’

ลูมมิสอธิบายว่ากลุ่มนายพลที่ประจำอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายคนเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ โดยมีมุมมองว่าในยุคที่สถานการณ์โลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ อย่างบิตคอยน์สามารถกลายเป็นเกราะป้องกันเศรษฐกิจของชาติไม่ต่างจากกระสุนหรืออาวุธทางทหาร เธอกล่าวว่า "แม้แต่ในระดับผู้บัญชาการกองทัพของเรา ก็เริ่มให้การสนับสนุนแนวคิดการสะสมบิตคอยน์ไว้เป็นทรัพยากรกลยุทธ์แล้ว โดยเฉพาะเพื่อรับมือกับประเทศอย่างจีนในประเด็นความขัดแย้งทางเศรษฐกิจ และอาจรวมถึงการปะทะทางทหารที่อาจเกิดขึ้น"

ประเด็น geopolitics และสกุลเงินดิจิทัลกำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนยังคงดำเนินอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลพวงจากสงครามการค้าในสมัยของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ทำให้สหรัฐเริ่มกำหนดอัตราภาษีต่อทุกประเทศคู่ค้า ก่อนจะปรับลดให้บางประเทศ ยกเว้น ‘จีน’ ที่ยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองประเทศมีการเจรจาบรรลุข้อตกลงหลายครั้งแต่สถานการณ์ยังไม่คลี่คลายอย่างเต็มที่

ในขณะเดียวกัน ทรัมป์กำลังเดินหน้ารณรงค์หาเสียงเลือกตั้งใหม่ โดยประกาศชัดเจนว่าจะผลักดันให้ “สหรัฐกลายเป็นเมืองหลวงของโลกด้านคริปโต” และเตือนว่า หากอเมริกาไม่เป็นผู้นำ จีนจะแย่งชิงอำนาจทางเทคโนโลยีนี้ไปได้ในที่สุด เขากล่าวว่า “หากเราไม่ทำ จีนจะทำ และพวกเขาจะควบคุมมันทั้งหมด”

จีนแม้จะแบนธุรกรรมคริปโตทั้งหมดตั้งแต่ปี 2021 แต่ก็ยังคงเดินหน้าลงทุนในเทคโนโลยีบล็อกเชน ผ่านโครงการสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ดิจิทัลหยวน’

แนวคิดที่มองว่าคริปโตมีความสำคัญในแง่ยุทธศาสตร์ ไม่ได้จำกัดแค่ในมุมมองของลูมมิสเท่านั้น เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา JD แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ได้กล่าวในงาน Bitcoin 2025 ว่า "อเมริกาต้องไม่สูญเสียความเป็นผู้นำในสินทรัพย์ดิจิทัล หากเราต้องการรักษาอำนาจในโลกการเงินยุคใหม่" ความคิดเห็นนี้ตอกย้ำว่า *คริปโตเคอร์เรนซี* กำลังกลายเป็นประเด็นระดับนโยบายของรัฐบาลและภาครัฐจำนวนมากในสหรัฐขณะนี้