กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) ได้ดำเนินการฟ้องร้องชายคนหนึ่งในข้อหาขโมยสกุลเงินดิจิทัลมูลค่า 65 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,350 ล้านบาท) ตั้งแต่อายุ 18 ปี โดยผู้ต้องสงสัยรายนี้คือ อันเดียน เมดเจดโดวิช วัย 22 ปี ซึ่งถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับการโจมตีแฮกซิ่งที่เกี่ยวข้องกับโปรโตคอล DeFi อย่าง “ไคเบอร์สวอป” และ “อินเด็กซ์ด์ ไฟแนนซ์” รวมทั้งหมด 5 กระทง
ตามข้อมูลจาก DOJ เมดเจดโดวิชใช้เทคนิคที่เรียกว่า ‘แฟลชโลน’ หรือสินเชื่อระยะสั้น ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สามารถกู้และคืนสินทรัพย์ในธุรกรรมเดียวกันได้ผ่านโค้ดที่กำหนด โดยเขาได้ใช้กระบวนการนี้ในการโจมตีโปรโตคอลดังกล่าวเพื่อขโมยทรัพย์สินดิจิทัลมูลค่า 15 ล้านดอลลาร์ และ 50 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ เขาได้อาศัยช่องโหว่ในการทำให้มูลค่าของโทเคนพุ่งสูงขึ้น ก่อนที่จะทำการแลกเปลี่ยนโทเคนเหล่านั้นเพื่อหากำไรในกระบวนการที่เรียกว่า ‘มินท์ติ้ง’
เหตุการณ์โจมตีอินเด็กซ์ด์ ไฟแนนซ์ในปี 2021 ถือเป็นกรณีตัวอย่างที่โดดเด่น ซึ่งเมดเจดโดวิชสามารถใช้ประโยชน์จากความเปราะบางของโปรโตคอล และนำเงินประมาณ 11.9 ล้านดอลลาร์ (ราว 400 ล้านบาท) ไปยังบัญชีส่วนตัวของเขา หลังจากการโจมตี เขาได้รับข้อเสนอให้คืนเงินของบริษัทที่เสียหายในจำนวน 10% ของที่ขโมยไป แต่เขาปฏิเสธและแทนที่จะทำการเย้ยหยันผู้เสียหายผ่านการแชทในแพลตฟอร์มดิสคอร์ด ทั้งนี้ การตามรอยชื่อผู้ใช้งานในดิสคอร์ด ที่อยู่กระเป๋าอีเธอเรียม และบัญชีออนไลน์อื่น ๆ ทำให้เชื่อมโยงเขากับเหตุการณ์แฮกครั้งก่อนในปี 2021 ซึ่งเขาเคยร่วมแข่งขันในงานประกวดการแฮกด้วย
ในปี 2023 เมดเจดโดวิชได้ก่อเหตุโจมตีอีกครั้ง โดยขโมยเงินจากไคเบอร์สวอปไปกว่า 50 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,800 ล้านบาท) โดยอาศัยเครือข่ายธุรกรรมที่ซับซ้อน DOJ ระบุว่าระหว่างการโจมตี เขาพยายามปกปิดการเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ผ่านการแลกเปลี่ยนระหว่างบล็อกเชนต่าง ๆ และการทำธุรกรรมซ่อนเร้น
อย่างไรก็ตาม เมดเจดโดวิชได้ตอบโต้ข้อกล่าวหาผ่านการสัมภาษณ์อีเมลกับ Bloomberg โดยอ้างว่า "เขาเพียงแค่ปฏิบัติตามกฎที่สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ได้กำหนดไว้" พร้อมยืนยันว่าเขาไม่ใช่นักแฮก แต่เป็นผู้ใช้งานที่อาศัยประโยชน์จากความผิดพลาดของตลาดเท่านั้น เขายังระบุว่าเขาไม่ได้ขโมยรหัสส่วนตัวของใคร แต่เพียงแค่ใช้โอกาสจาก ‘การตั้งราคาผิดพลาด’ ในตลาดเท่านั้น
ปัจจุบัน เมดเจดโดวิชยังคงหลบหนี และ DOJ ระบุว่าเขายังไม่ได้รับโทษในกระบวนการยุติธรรม คดีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางด้านความปลอดภัยของคริปโตและระบบการเงิน DeFi ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางการลงทุนและการกำกับดูแลในอนาคตของระบบบล็อกเชน
ความคิดเห็น 0