บราซิลจ่อถือบิตคอยน์(BTC) 5% เป็นทุนสำรองชาติ ตั้ง 'RESBiT' เสริมความมั่นคงเศรษฐกิจ

บราซิลเดินหน้าผลักดันร่างกฎหมายใหม่ ซึ่งจะอนุญาตให้ประเทศถือครอง *บิตคอยน์(BTC)* เป็นส่วนหนึ่งของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ โดยเมื่อวันที่ 12 ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจของสภาผู้แทนราษฎรบราซิลได้ผ่านความเห็นชอบต่อร่างกฎหมาย “PL 4501/2023” ซึ่งรวมถึงการจัดตั้งบัญชีสำรองสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งชาติชื่อ *‘RESBiT’* เพื่อให้สามารถถือครองบิตคอยน์ได้สูงสุด 5% ของทุนสำรองทั้งประเทศ หากร่างดังกล่าวได้รับความเห็นชอบในขั้นสุดท้าย บราซิลจะกลายเป็นประเทศที่สองต่อจากเอลซัลวาดอร์ที่มี *กองทุนสำรองแห่งชาติด้วยบิตคอยน์* อย่างเป็นทางการ

ผู้เสนอร่างกฎหมายฉบับนี้คือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เอรอส บิออนดินี ซึ่งผลักดันให้ใช้นวัตกรรมอย่างบล็อกเชนและปัญญาประดิษฐ์ภายใต้นโยบายดิจิทัลของธนาคารกลาง โดยย้ำว่าบิตคอยน์ควรถูกบรรจุไว้ในกลยุทธ์สำรองของประเทศ ร่างกฎหมายกำหนดให้ธนาคารกลางและกระทรวงการคลังบราซิลร่วมกันรับผิดชอบดำเนินงาน ซึ่งจะมีการเก็บสินทรัพย์ไว้ใน *กระเป๋าฮาร์ดแวร์ (Cold wallet)* พร้อมการตรวจสอบงบบัญชีทุก 6 เดือน และใช้วิธีการสะสมบิตคอยน์แบบค่อยเป็นค่อยไป — ทั้งหมดนี้ชี้ถึงความสำคัญของ ‘มาตรการความปลอดภัยและความโปร่งใส’ ตามที่ระบุไว้ในร่าง

ขณะที่สมาชิกสภาฯ ลูอิส กัสตาโอโน เผยว่า การรวมบิตคอยน์ไว้ในสินทรัพย์กองทุนสำรองจะช่วยลด *การพึ่งพาเงินสกุลหลักของโลก* และเพิ่มความหลากหลายให้แก่ทุนสำรองของบราซิล เขาให้ความเห็นว่า “สิ่งสำคัญที่สุดคือการเดินหน้าอย่างระมัดระวังและหลีกเลี่ยงความเสี่ยง โดยไม่จำเป็นต้องรีบเร่ง”

ร่างกฎหมายดังกล่าวจะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาโดยคณะกรรมาธิการด้านเทคโนโลยี รัฐธรรมนูญ และการคลัง ก่อนเข้าสู่การลงมติในที่ประชุมใหญ่ของสภา หากผ่านขั้นสุดท้าย บราซิลจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีแผนสำรองบิตคอยน์อย่างเป็นระบบและมีกลไกกำกับดูแลเต็มรูปแบบ

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของบราซิลไม่เพียงสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในระดับภูมิภาคอเมริกาใต้ แต่ยังส่งสัญญาณไปยังกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ทั่วโลกในเรื่องการ *ยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในฐานะทุนสำรอง* ความชัดเจนด้านกฎหมายควบคู่กับการกำกับโดยธนาคารกลาง อาจกลายเป็น *โมเดลเชิงนโยบายใหม่* ที่ประเทศอื่นสามารถนำไปปรับใช้ และยังเร่งให้เกิดการแข่งขันระดับโลกในการสถาปนาโครงสร้างกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจังในอนาคต