การคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ระบุว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)อาจกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อการฟื้นตัวของตลาดคริปโต โดยเฉพาะ *บิตคอยน์(BTC)* ซึ่งอาจนำไปสู่การเข้าสู่ยุคของ 'อัลท์ซีซั่น' หรือช่วงเวลาที่เหรียญ *อัลท์คอยน์* มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อสภาวะตลาดที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัย
ไซคลอป(Cyclop) นักวิเคราะห์ตลาดคริปโตชื่อดัง เปิดเผยว่า มีโอกาสมากถึง 99.9% ที่เฟดจะประกาศลดดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งอาจดันราคาบิตคอยน์ให้พุ่งทะลุ *13 หมื่นดอลลาร์ (ประมาณ 1.8 ล้านบาท)* ได้ในอนาคตอันใกล้ โดยเขายังคาดว่าเหรียญอัลท์คอยน์รายใหญ่จะมีแนวโน้มฟื้นตัวตาม ส่งผลให้ตลาดเข้าสู่ 'อัลท์ซีซั่น' อย่างเต็มรูปแบบภายในสิ้นปีนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ สะท้อนสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 321.465 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน ขณะอัตรา *เงินเฟ้อ* อยู่ที่ 2.4% และ *อัตราการว่างงาน* ยังทรงตัวที่ 4.2% ต่อเนื่องสามเดือน ซึ่งถือเป็นสัญญาณว่าเฟดอาจมีพื้นที่นโยบายในการเปลี่ยนทิศทางสู่การผ่อนคลายทางการเงิน
ไซคลอปชี้ให้เห็นว่า นโยบายการเงินมีบทบาทกำหนดแนวโน้มของตลาดคริปโต พร้อมยกตัวอย่างกรณีในช่วงต้นปี 2023 ที่การลดดอกเบี้ยอย่างชัดเจนส่งผลให้บิตคอยน์ปรับตัวขึ้นกว่า 20% ภายในไม่กี่สัปดาห์ ขณะที่ปี 2024 ซึ่งไม่มีการปรับลดชัดเจน ราคากลับปรับตัวลดลง แสดงให้เห็นถึง *ความสำคัญของบริบทเศรษฐกิจมหภาค*
เขาเชื่อว่าหากเกิด 3 เงื่อนไข ได้แก่ หนึ่ง—เงินเฟ้อลดเหลือใกล้ 2%, สอง—อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเกิน 4.3%, และสาม—เกิดความชัดเจนในนโยบายภาษีของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ต่อประเทศจีน ตลาดคริปโตอาจเข้าสู่จุดสูงสุดของรอบขาขึ้นในครั้งนี้ ทั้งนี้ ศาลสหรัฐฯ มีกำหนดพิจารณาคดีเกี่ยวกับนโยบายภาษี *แร่หายากจากจีน* ของทรัมป์หลังวันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งอาจส่งผลต่อดุลยภาพในการค้าโลก
ไซคลอปคาดว่า หากเงื่อนไขทั้งหมดบรรลุ *บิตคอยน์(BTC)* อาจพุ่งแตะ 13 หมื่นดอลลาร์ ขณะที่ราคาของอัลท์คอยน์จะปรับตัวสูงสุดในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมปี 2025 อย่างไรก็ตาม เขาเตือนถึงความผันผวนระยะสั้นในช่วงต้นของการปรับลดดอกเบี้ยซึ่งนักลงทุนควรตระหนักไว้
ในขณะที่ตลาดการเงินโลกเริ่มสะท้อนราคาตามภาวะคาดการณ์การลดดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนนโยบายนี้จะเพิ่ม *สภาพคล่อง* และลด *ต้นทุนการกู้ยืม* ซึ่งถือเป็นสภาพแวดล้อมเอื้อต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโต ส่งผลบวกต่อความต้องการของนักลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของนโยบายเศรษฐกิจ สถานการณ์เงินเฟ้อ, รายงานการจ้างงาน และนโยบายภาษีของทรัมป์ ล้วนเป็นปัจจัยที่นักลงทุนควรติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะอาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของทิศทางใหม่สำหรับผู้ที่ลงทุนในสินทรัพย์แบบ *ไร้ศูนย์กลาง*
ความคิดเห็น 0