ไมเคิล เซย์เลอร์แนะแอปเปิล(AAPL)ซื้อบิตคอยน์(BTC)แทนซื้อหุ้นคืน หลังราคาหุ้นร่วง 18%

การที่ราคาบิตคอยน์(BTC)พุ่งสูงขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ กำลังกลายเป็นแรงผลักดันให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิล(AAPL) ถูกเสนอให้พิจารณาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อกระตุ้นราคาหุ้น โดยไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ประธานบริษัทกลยุทธ์(Strategy) กล่าวย้ำว่า *“แอปเปิลควรซื้อบิตคอยน์”* พร้อมแนะนำให้เพิ่มคริปโตฯ เข้าสู่พอร์ตการลงทุน แทนการซื้อหุ้นคืนที่ไม่ได้ผลในช่วงที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 24 เซย์เลอร์โพสต์ผ่านบัญชี X ของเขาว่า “นโยบายซื้อหุ้นคืนของแอปเปิลในขณะนี้ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ดี” พร้อมชี้ว่าการถือบิตคอยน์อาจนำไปสู่ผลตอบแทนที่เหนือกว่าในระยะยาว ความเห็นของเขาเกิดขึ้นในช่วงที่ราคาของบิตคอยน์ปรับขึ้นถึง 11% ตั้งแต่ต้นปี 2025 ขณะที่ราคาหุ้นของแอปเปิลกลับลดลงถึง 18% โดยการวิพากษ์ของพิธีกร CNBC อย่างจิม แครเมอร์(Jim Cramer) ที่มีต่อแผนซื้อหุ้นคืนของแอปเปิล ก็ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับคำแนะนำของเซย์เลอร์

เขายังเน้นว่า บริษัทไม่ควรปล่อยให้เงินสดส่วนหนึ่งอยู่นิ่งโดยไม่ก่อประโยชน์ แต่ควรใช้เพื่อลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถ ‘สร้างมูลค่า’ ได้ และลงทุนในบิตคอยน์ไม่ควรถูกมองว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอายแต่อย่างใด

ในอีกด้านหนึ่ง ทิศทางการนำคริปโตฯ มาใช้ในภาคธุรกิจกำลังขยายตัวอย่างเห็นได้ชัด ล่าสุดบริษัทอินเตอร์แอคทีฟ สเตร็งธ์(TRNR) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก ได้เปิดเผยแผนการระดมทุนสูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6.95 พันล้านบาท) เพื่อถือครองเหรียญเฟตช์เอไอ(FET) ซึ่งขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ หากสำเร็จ จะเป็นการถือครอง FET โดยบริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ในเวลาใกล้เคียงกัน ยังมีรายงานว่ามีนักลงทุนระดับ ‘วาฬ’ รายหนึ่ง เปิดสถานะ ‘ลอง’ บิตคอยน์ด้วยเลเวอเรจจำนวนมหาศาล มูลค่ากว่า 3 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.17 พันล้านบาท) การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่นี้ เกิดขึ้นหลังจากเทรดเดอร์นามว่าเจมส์ วินน์(James Wynn) ประกาศหวนคืนสู่วงการในนามแฝง ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าเขาอาจเกี่ยวข้องกับดีลดังกล่าว

ท่ามกลางความเคลื่อนไหวเหล่านี้ แนวทางสนับสนุนคริปโตของประธานาธิบดีทรัมป์ เริ่มมีอิทธิพลต่อบรรยากาศการลงทุน ส่งสัญญาณว่าเส้นแบ่งระหว่างสินทรัพย์แบบดั้งเดิมกับสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังเลือนหายอย่างรวดเร็ว และบริษัทชั้นนำเองก็ไม่อาจมองข้ามการใช้กลยุทธ์ทางคริปโตอีกต่อไป *ความคิดเห็น* นี่อาจเป็นสัญญาณว่าเราเข้าสู่ยุคใหม่ที่บริษัทเทคฯ ต้องคิดเหนือกรอบมากกว่าการบริหารหุ้นแบบเดิมๆ หากไม่อยากตกขบวนการเงินแห่งอนาคต