ความเคลื่อนไหวในการยกระดับ *บิตคอยน์(BTC)* จากเพียง ‘ทองคำดิจิทัล’ สู่การเป็นสินทรัพย์ที่มีบทบาทเชิงรุกในระบบการเงิน เริ่มกลายเป็นรูปธรรมมากขึ้น ล่าสุดในการประชุม ‘Bitcoin 2025 Conference’ ที่จัดขึ้นณเมืองลาสเวกัส ผู้เชี่ยวชาญหลายรายประเมินว่า *การเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi)* จะนำพาบิตคอยน์ก้าวข้ามขีดจำกัดทางกายภาพ กลายเป็น ‘สินทรัพย์ที่ใช้งานได้จริง’ เคียงข้างระบบการเงินดั้งเดิม
การประชุมดังกล่าวมีโครงการ *ดีไฟบนบิตคอยน์* เข้าร่วมอย่างคึกคัก รวมถึง *Liquid Network* ซึ่งสะท้อนกระแสการขยายโครงสร้างพื้นฐาน DeFi ภายในระบบของบิตคอยน์โดยตรง นักวิเคราะห์มองว่าความพยายามสร้าง ‘ระบบการเงินทางเลือกแทนเงินตรา’ ที่นักพัฒนาเริ่มต้นไว้ กำลังเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ
แม้ *บิตคอยน์* จะยังได้รับการยอมรับในวงกว้างว่าเป็น ‘สินทรัพย์หลัก’ ในตลาดคริปโต และยังคงทำหน้าที่เป็น *แหล่งเก็บมูลค่า* และ *เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากระบบการเงินแบบดั้งเดิม* อย่างมีประสิทธิภาพ ทว่าแนวคิดในการสร้างระบบการเงินแบบแยกจากเดิมผ่านโครงสร้าง DeFi กำลังขยายวง และได้รับความสนใจมากขึ้นจากผู้พัฒนา
เจค็อบ ฟิลิปส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง *ลอมบาร์ด ไฟแนนซ์* กล่าวถึงเป้าหมายของดีไฟบนบิตคอยน์ว่า “หัวใจของดีไฟคือการสร้างระบบการเงินที่ทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาความเชื่อถือหรือผู้มีอำนาจ” พร้อมเสริมว่า “บิตคอยน์ไม่ควรจำกัดอยู่แค่การฝากเก็บไว้ในตู้นิรภัย แต่ต้องถูกนำมาใช้เป็น *เครื่องมือทางการเงิน* อย่างแท้จริง” ปัจจุบัน *ลอมบาร์ด* ได้สร้างระบบที่สามารถนำบิตคอยน์ไป *สเตก* บนเชน *บาบิโลน* และสามารถนำไปใช้กู้ยืมหรือเทรดภายในระบบดีไฟภายนอกได้ด้วยผ่าน *LBTC*
ทางด้าน อาเดรียน ไอเดลแมน ผู้ร่วมก่อตั้งและ CTO ของ *รูทสต๊อกแล็บส์* เผยว่า การรวมขุด (Merged Mining) ของเครือข่ายเลเยอร์ 2 อย่าง *รูทสต๊อก(RSK)* แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสแรกของปี 2025 โดยเน้นว่า “การสร้างรากฐานสำหรับสมาร์ทคอนแทรกต์และการเข้าถึงทางการเงิน ควรวางพื้นฐานไว้บนบิตคอยน์” พร้อมชูเทคโนโลยี *ไซด์เชน* และ *เฟเดอเรเต็ดบริดจ์* ที่เพิ่มขีดความสามารถของบิตคอยน์โดยไม่กระทบต่อความปลอดภัย
ในทำนองเดียวกัน ชาร์ลี ฮู ผู้ร่วมก่อตั้ง *บิตเลเยอร์* ก็เน้นย้ำความสำคัญของ *เลเยอร์หลักของบิตคอยน์* ว่า “ความเป็นจริงของการกระจายศูนย์และความปลอดภัยของธุรกรรม จะเกิดขึ้นอย่างแท้จริงเมื่อดำเนินการบนเชนหลักของบิตคอยน์” โดยแสดงจุดยืนว่าควรผนึกฟีเจอร์ดีไฟเข้าไว้กับตัวเชนหลักมากกว่าการพัฒนาแยกบนไซด์เชน
ทั้งนี้ เทรนด์การขยายโครงสร้างดีไฟผ่านบิตคอยน์ไม่ได้เป็นเพียงการทดลองอีกต่อไป แต่กลายเป็นสัญญาณของ ‘การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง’ ที่อาจปฏิวัติระบบการเงินเดิม หากความพยายามเหล่านี้สัมฤทธิ์ผล *บิตคอยน์* ก็อาจก้าวข้ามสถานะ ‘สินทรัพย์เก็บมูลค่า’ สู่ศูนย์กลางของระบบการเงินใหม่ที่เปิดกว้าง มีประสิทธิภาพ และเข้าถึงได้ยิ่งขึ้นในอนาคต
ความคิดเห็น: การพัฒนาเหล่านี้อาจเป็นคำตอบใหม่สำหรับคำถามที่ว่า “บิตคอยน์ทำอะไรได้มากกว่าการถือครองหรือไม่” โดยเฉพาะในยุคที่ความเชื่อมั่นในระบบการเงินดั้งเดิมยังคงถูกตั้งคำถามอย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็น 0