ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
ราคาบิตคอยน์(BTC) พุ่งขึ้นลงอย่างรุนแรงในช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมง ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ทวีความร้อนแรง ทำให้ตลาดคริปโตเผชิญความผันผวนอย่างหนัก ส่งผลให้มีนักเทรดกว่า 134,000 รายถูกบังคับปิดสถานะการลงทุน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 440 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6,116 ล้านบาท)
เมื่อวันที่ 23 (เวลาท้องถิ่น) ราคาบิตคอยน์ร่วงลงต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์ทันทีหลังมีรายงานว่าอิหร่านได้ยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพของสหรัฐในตะวันออกกลาง แต่ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ราคากลับดีดตัวขึ้นมากกว่า 3,000 ดอลลาร์ สะท้อนถึงความผันผวนของตลาดที่ส่งผลกระทบชัดเจนต่อกลุ่มนักลงทุนระยะสั้นที่ใช้เลเวอเรจสูง
นักวิเคราะห์บางรายเสนอ *ความคิดเห็น* ว่าการดำเนินการทางทหารของอิหร่านอาจเป็นความพยายามในการควบคุมสถานการณ์และลดความตึงเครียด โดยตามรายงานข่าว อิหร่านได้แจ้งแผนการล่วงหน้าแก่อเมริกาและกาตาร์ พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการสร้างความเสียหายโดยตรง ซึ่งบ่งชี้ถึงการวางกลยุทธ์เพื่อเปิดโอกาสในการเจรจาเบื้องหลัง ทั้งนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่า *ทรัมป์* อาจได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ล่วงหน้า
ตลาดยังคงแสดงความไม่มั่นคงอย่างเห็นได้ชัด ราคาบิตคอยน์เคลื่อนไหวรุนแรงด้วยความต่างนับพันดอลลาร์ในแต่ละวัน โดยเฉพาะในช่วง 2 วันที่ผ่านมา นักลงทุนจำนวนมากเริ่มกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ไม่สามารถคาดเดาได้ นอกจากบิตคอยน์แล้ว อีเธอเรียม(ETH) เองก็ได้รับผลกระทบด้วย โดยราคาร่วงจากระดับกว่า 2,400 ดอลลาร์ (ประมาณ 333,000 บาท) ลงไปต่ำกว่า 2,200 ดอลลาร์ (ประมาณ 306,000 บาท) ก่อนกลับมาปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2,300 ดอลลาร์ (ประมาณ 320,000 บาท) อีกครั้ง
เหตุการณ์ในครั้งนี้แสดงให้เห็นชัดว่า ตลาดคริปโตมีความอ่อนไหวอย่างมากต่อ *ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์* นักลงทุนพึ่งพาการวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความผันผวนที่รุนแรง และในตลาดที่อิงเลเวอเรจสูง ความเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเช่นนี้อาจนำไปสู่ความเสียหายครั้งใหญ่ได้อย่างง่ายดาย ความระมัดระวังจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ยังต้องการลงทุนในภาวะอ่อนไหวเช่นนี้
ความคิดเห็น 0