บิตคอยน์(BTC) ร่วงต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์ นักลงทุนจับตาแนวโน้มซบเซาซ้ำรอยเดิมฤดูร้อน

บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์หรือประมาณ 1.39 ล้านบาทเป็นครั้งแรกในรอบเกือบเดือนครึ่ง ท่ามกลางกระแสความกังวลว่า *ตลาดคริปโต* อาจเข้าสู่ช่วง *ซบเซาในเดือนกรกฎาคม* ตามแนวโน้มที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

เบนจามิน โคเวน(Benjamin Cowen) นักวิเคราะห์คริปโตฯ กล่าวว่าบิตคอยน์เริ่มแสดงสัญญาณอ่อนแรงตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน ซึ่งสอดคล้องกับปรากฏการณ์ที่เกิดซ้ำ ๆ ว่า ‘ไตรมาส 3’ มักเป็นช่วงที่ราคาปรับตัวลดลง เขายังมองว่าราคาอาจลงแตะจุดต่ำสุดในเดือนสิงหาคมหรือตุลาคมนี้

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์ร่วงลงแตะ 98,480 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.36 ล้านบาท) ก่อนจะฟื้นกลับมาเคลื่อนไหวที่ราว 102,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.41 ล้านบาท) ซึ่งเป็นการลดลงราว 8% จากระดับสูงสุดที่ 110,000 ดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน นอกจากนี้การที่ราคาปิดรายสัปดาห์ต่ำกว่าระดับ 104,400 ดอลลาร์ ทำให้เกิดแรงกดดันทางเทคนิคที่ไม่แน่นอน

ข้อมูลในอดีตสะท้อนชัดว่าช่วงฤดูร้อนมักเกิดการ *ปรับฐานแรงในตลาดคริปโต* ตัวอย่างเช่น ปี 2017 ราคาบิตคอยน์ร่วงกว่า 35% ช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ก่อนจะวิ่งขึ้นในสิ้นปี ส่วนปี 2019 และ 2021 บิตคอยน์ลดลง 27% และ 25% ตามลำดับ ขณะที่ปี 2022 ร่วงกว่า 38% และปี 2023 ก็ลดลงไปราว 21%

ขณะเดียวกัน ปีเตอร์ แบรนต์(Peter Brandt) นักวิเคราะห์กราฟชื่อดังชี้ว่ารูปแบบกราฟปัจจุบันของบิตคอยน์กำลังเข้าสู่แพตเทิร์นที่เรียกว่า ‘ไก่แดงสี่ตัว’ (four red rooster) ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนไปสู่ขาลง โดยเฉพาะจากการเกิดแท่งเทียนแดงต่อเนื่องสะท้อนความแข็งแกร่งของแรงขาย

ด้านความเสี่ยงเชิงมหภาคยังส่งผลกระทบต่อตลาด มาร์เกิล ฟาน เดอ ป็อป(Michaël van de Poppe) ผู้ร่วมก่อตั้ง MN Fund ได้แสดงความเห็นกรณีที่อิหร่านจะลงมติปิดช่องแคบฮอร์มุซว่า “ความเสี่ยงในลักษณะนี้ยากที่สินทรัพย์เสี่ยงจะฟื้นตัวได้” พร้อมระบุว่า *บิตคอยน์และอัลต์คอยน์* ยังไม่สามารถหลุดจากแนวโน้มขาลงในระยะสั้น

ปัจจัยอื่น เช่น การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ร่วมกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางก็อาจเพิ่มความผันผวนให้กับตลาดในสัปดาห์นี้อีกด้วย

หากราคาบิตคอยน์ปรับลงถึง 30% จากจุดสูงสุดในเดือนมิถุนายน มีความเป็นไปได้ที่ราคาจะลงไปต่ำกว่า 80,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.11 ล้านบาท) ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม ความสนใจในตลาดเวลานี้คือ *บิตคอยน์จะเดินรอยเดิมในฤดูร้อนนี้หรือไม่* และนักลงทุนต่างจับตาการเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด