นักขุดบิตคอยน์(BTC) รายได้ร่วงแตะจุดต่ำสุดในรอบปี เสี่ยงถอนตัวเพราะขาดทุนหนัก

นักขุดบิตคอยน์(BTC) กำลังเผชิญกับวันแย่ที่สุดในรอบปี หลังรายได้รายวันร่วงแตะระดับต่ำสุดของปีนี้ โดยรายงานจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชนอย่างคริปโตควนต์(CryptoQuant) เมื่อเร็วๆ นี้ระบุว่า การร่วงลงของทั้ง ‘ค่าธรรมเนียมการขุด’ และ ‘ราคาบิตคอยน์’ ส่งผลให้รายได้ของนักขุดเข้าสู่ภาวะตึงเครียดทั่วทั้งอุตสาหกรรม

เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) คริปโตควนต์เผยผ่านบัญชี X ว่า นักขุดบิตคอยน์ได้พบกับ *วันจ่ายเงินที่แย่ที่สุดในรอบ 1 ปี* โดยรายได้รวมต่อวันในเดือนมิถุนายน ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,140 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา และสะท้อนถึงความไม่สมดุลระหว่าง *ต้นทุนการขุด* และ *กำไรจากการขุด* ที่กำลังกลับมาเป็นปัจจัยเสี่ยงอีกครั้ง

ปัจจัยหลักที่ทำให้รายได้หดตัว มาจากสองด้านพร้อมกัน ด้านแรกคือ ‘ค่าธรรมเนียมเครือข่าย’ ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยคริปโตควนต์ประเมินว่ารายได้จากค่าธรรมเนียมลดลงถึง 50% เนื่องจากปริมาณธุรกรรมลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนอีกด้านหนึ่ง คือ *ราคาบิตคอยน์* ที่ลดลงกว่า 15% ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ยิ่งซ้ำเติมภาวะรายได้ตกต่ำของนักขุด

จากกราฟของคริปโตควนต์ ระบุว่าผลตอบแทนของนักขุดในขณะนี้ร่วงสู่ระดับต่ำสุดนับจากเดือนกรกฎาคม 2022 ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่า นักขุดรายย่อยอาจไม่สามารถแบกรับต้นทุนค่าไฟฟ้าและค่าซ่อมบำรุงเครื่องมือขุดได้อีกต่อไป อาจต้องถอนตัวออกจากตลาดในระยะสั้น

ในด้านของราคาตลาด บิตคอยน์กำลังพยายามไต่ระดับผ่านแนวต้านที่ 108,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.9 ล้านบาท) ขณะที่บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลอย่างกลาสโนด(Glassnode) รายงานว่า *นักลงทุนรายย่อย* ที่ถือบิตคอยน์ 1–10 เหรียญ มีแนวโน้มทยอยขายสินทรัพย์ในช่วงนี้ ในทางกลับกัน *นักลงทุนขนาดกลาง* ที่ถือ 10–100 เหรียญ กลับเพิ่มการสะสมอย่างชัดเจน ส่งผลให้ดัชนี ‘Accumulation Trend Score’ ปรับขึ้นจาก 0.25 มาอยู่ที่ 0.57 ซึ่งเป็นสัญญาณของทิศทางตลาดอันผันผวน

แม้สัญญาณการสะสมของนักลงทุนบางกลุ่มอาจเป็นสัญญาณกลับตัวของราคา แต่ในอีกมุมหนึ่ง นักขุดยังคงเผชิญกับแรงกดดันด้านต้นทุนอย่างหนัก หากแนวโน้มราคายังปรับตัวลง หรือค่าธรรมเนียมยังลดลงต่อเนื่อง นักขุดที่มี ‘มาร์จิ้นต่ำ’ อาจเข้าสู่จุดล่มสลายได้ในเร็ววัน

ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หากช่องว่างระหว่าง *กำไรต่อหน่วย* และ *ต้นทุนการดำเนินการ* ขยายตัวมากกว่านี้ อาจนำไปสู่ผลกระทบร้ายแรง เช่น ‘แฮชเรทลดลง’, ‘ความปลอดภัยของเครือข่ายด้อยลง’ และ ‘การรวมศูนย์ของกำลังขุด’ ซึ่งล้วนเป็นความเสี่ยงเชิงโครงสร้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งนี้ทำให้อุตสาหกรรมการขุดยังไม่มีความแน่นอนในอนาคตอันใกล้นี้