บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH) และริปเปิล(XRP) กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญทางเทคนิค ท่ามกลางภาวะตลาดที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ทำให้ความสนใจของนักลงทุนกลับมาจับตาทิศทางราคาของสินทรัพย์คริปโตเหล่านี้อีกครั้ง
ในฝั่งของอีเธอเรียม(ETH) ราคากำลังพยายามไต่กลับสู่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล 200 วัน (EMA 200) ซึ่งอยู่ที่ราว 2,500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 347,000 บาท โดยจุดนี้ถือเป็นระดับตัดสินแนวโน้มระยะยาว ก่อนหน้านี้ ETH ร่วงต่ำกว่าทั้ง EMA 50 และ EMA 100 แต่ล่าสุดเกิดแรงซื้อบางส่วนกลับเข้ามา ส่งผลให้ราคาเริ่มขยับเข้าใกล้ EMA 200 อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ‘ปริมาณการซื้อขาย’ ที่ยังไม่ฟื้นตัวเป็นตัวแปรสำคัญที่ชี้ว่าแรงซื้อยังไม่กลับมาอย่างเต็มที่ แถมการปรากฏของ 'รูปแบบขาขึ้นสามเหลี่ยมล้มเหลว' ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน ยิ่งตอกย้ำถึงความ ‘อ่อนแอของโมเมนตัม’
ค่าดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) ยังคงเคลื่อนไหวในโซนกลาง และไม่แสดงสัญญาณแรงซื้อที่แข็งแกร่ง หาก ETH ไม่สามารถทะลุ EMA 200 ได้ มีโอกาสสูงที่ราคาจะถดถอยกลับสู่แนวรับจิตวิทยาที่ 2,000 ดอลลาร์ หรือราว 278,000 บาท ซึ่งอาจเท่ากับการยกเลิกเกือบทั้งหมดของแรงขึ้นที่เคยเกิดในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม อย่างไรก็ดี หากสามารถ ‘ทะลุและยืนเหนือ EMA 200 ได้อย่างมั่นคง’ ก็อาจเปิดทางให้ ETH พุ่งต่อสู่ช่วง 2,600–2,800 ดอลลาร์ (ประมาณ 361,000–389,000 บาท)
ขณะเดียวกัน ริปเปิล(XRP) กำลังแสดงสัญญาณเชิงบวก หลังจากสามารถทะลุ EMA 26 ได้อย่างแข็งแรง และพุ่งทะลุทั้ง EMA 50 และ EMA 100 รวมถึงแนวต้านระยะสั้นอื่นๆ ได้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สะท้อนถึง ‘การกลับมาของแรงซื้อ’ ที่เริ่มมีน้ำหนัก RSI ก็ขยับสูงกว่า 50 โดยไม่เข้าสู่ภาวะซื้อเกิน จึงอาจตีความได้ว่าตลาดยังมีพื้นที่ให้โมเมนตัมเติบโตต่อ ระดับราคาที่น่าจับตาอยู่ระหว่าง 2.28–2.32 ดอลลาร์ (ราว 317,000–322,000 บาท) ซึ่งเป็นกรอบสำคัญที่ XRP อาจทดสอบอีกครั้ง หากผ่านไปได้ก็มีโอกาสสร้าง ‘เทรนด์ขาขึ้นใหม่’
ทางด้านบิตคอยน์(BTC) กำลังเผชิญกับแนวต้านสำคัญอย่างเส้นแนวโน้มขาลง ซึ่งเป็นแนวที่กดดันราคามานานกว่า 2 เดือน การ ‘ทดสอบเป็นครั้งที่ 3’ ของแนวต้านนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนของแนวโน้มระยะกลาง BTC ฟื้นกลับมายืนเหนือ EMA 26 และ EMA 50 ได้แล้ว อีกทั้งยังแสดงสัญญาณบวกด้วยการเด้งขึ้นจาก EMA 100 อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม การขาดการสนับสนุนจาก ‘ปริมาณการซื้อขาย’ ยังคงเป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้ BTC ไม่สามารถทะลุแนวต้านนี้ได้แบบเด็ดขาด
ณ ปัจจุบัน บิตคอยน์ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 105,000 ดอลลาร์ หรือราว 1,459,500 บาท อยู่ในจุดที่ใกล้จะตัดสินว่าแนวโน้มจะเปลี่ยนหรือไม่ RSI ยังคงอยู่ในเขตแข็งแกร่ง แต่ยังไม่ถึงโซน Overbought จึงมีโอกาสเกิด ‘การเร่งขึ้นของราคา’ หากสามารถผ่านแนวต้านไปได้ ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่า หาก BTC ทะลุ 108,000 ดอลลาร์ (ราว 1,501,200 บาท) พร้อมแรงซื้อที่ชัดเจน อาจเป็นสัญญาณนำไปสู่ ‘การพุ่งสู่จุดสูงสุดใหม่’
โดยรวมแล้ว ทั้งอีเธอเรียม, XRP และบิตคอยน์ กำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญที่ราคาจะชี้ชะตาแนวโน้มในระยะต่อไป ความเคลื่อนไหวของ ‘ปริมาณการซื้อขาย’ และความคิดเห็นของนักลงทุนจะมีบทบาทตัดสินว่าแนวโน้มจะกลับเข้าสู่ขาขึ้น หรือจะเจอกับแรงขายกลับมาอีกระลอก ท่ามกลางความไม่แน่นอนในตลาดที่ยังดำเนินต่อ ความสำคัญของแนวต้านและดัชนีเทคนิคจึงยิ่งทวีความสำคัญในช่วงเวลานี้
ความคิดเห็น 0