กระแสเงินทุนจากนักลงทุนสถาบันในสหรัฐฯ ที่หลั่งไหลเข้าสู่กองทุน ETF บิตคอยน์(BTC) แบบสปอต นับตั้งแต่เปิดตัว ได้รับการวิเคราะห์ว่าแตกต่างจากการเก็งกำไรระยะสั้นทั่วไป โดยส่วนใหญ่เป็นการถือ ‘สถานะซื้อระยะยาว’ มากกว่าการซื้อขายเพื่อทำกำไรจากความต่างของราคา หรือที่เรียกว่า ‘เบสิสเทรด’ ซึ่งสะท้อนถึง ‘ความเชื่อมั่นอย่างจริงจัง’ ของภาคการเงินดั้งเดิมที่มีต่อบิตคอยน์
เมื่อวันที่ 24 บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน Glassnode และสถาบันวิจัยการเงิน Avenir Group เผยรายงานร่วมกันว่า เงินทุนจำนวนมากที่ไหลเข้าสู่ ETF บิตคอยน์แบบสปอตในสหรัฐฯ เป็น ‘การซื้อสุทธิโดยไม่มีการป้องกันความเสี่ยง’ หรือ long-only position ซึ่งต่างจากรูปแบบการซื้อขายในตลาดล่วงหน้าเพื่อหวังทำกำไรระยะสั้น
รายงานระบุว่า “แม้การเปิดตัว ETF จะถือเป็นหมุดหมายสำคัญ แต่สิ่งที่ควรจับตามองมากกว่าคือวิธีที่ตลาดการเงินแบบดั้งเดิมเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบิตคอยน์เริ่มเปลี่ยนบทบาทจากสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไร ไปสู่การเป็นส่วนหนึ่งของ ‘พอร์ตการลงทุนเชิงโครงสร้าง’ มากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนในการปรับกลยุทธ์ของนักลงทุนจากการล่าผลตอบแทนสั้นๆ ไปสู่การถือครองตามมุมมองแนวโน้มระยะกลางถึงยาว
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ รูปแบบการเคลื่อนไหวของบิตคอยน์เริ่มมีลักษณะคล้ายกับสินทรัพย์หลักอื่น ๆ โดยข้อมูลระบุว่า บิตคอยน์ยังคงมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับสินทรัพย์มหภาคแบบดั้งเดิม เช่น ราคาทองคำ, ดัชนี S&P500 และตัวชี้วัดของตลาดหุ้น ขณะที่มีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงข้ามกับดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและสเปรดพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนสูง
ความคิดเห็น: แนวโน้มดังกล่าวอาจบ่งบอกว่าบิตคอยน์กำลังสลัดภาพลักษณ์ของสินทรัพย์เก็งกำไรที่เคลื่อนไหวอย่างโดดเดี่ยว และเริ่มกลายเป็น ‘สินทรัพย์ที่เติบโตและเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลก’ รายงานสรุปว่า “ความเคลื่อนไหวร่วมกับทองคำ หุ้น และตลาดอัตราแลกเปลี่ยน บ่งชี้ว่า บิตคอยน์กำลังได้รับการนิยามใหม่ในกรอบของโมเดลวิเคราะห์ความเสี่ยงแบบสมัยใหม่”
ความคิดเห็น 0