ต้นทุนขุดบิตคอยน์(BTC)ยุคซาโตชิต่ำจนน่าตกใจ ชาลส์ ฮอสกินสันเผยอาจใช้ไฟแค่ 191 ดอลลาร์

มีบทวิเคราะห์ล่าสุดที่เผยว่า ‘ซาโตชิ นากาโมโตะ’ ผู้สร้างบิตคอยน์(BTC) ใช้ต้นทุนค่าไฟฟ้าในการขุดบิตคอยน์จำนวน 1 ล้านเหรียญในช่วงแรกเริ่มน้อยกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้มาก โดยข้อสรุปที่น่าประหลาดใจนี้ถูกเปิดเผยโดยชาลส์ ฮอสกินสัน(Charles Hoskinson) ผู้ร่วมก่อตั้งคาร์ดาโน(ADA) ซึ่งทำให้เกิดความสนใจในวงกว้าง

ฮอสกินสันระบุว่าเขาได้ใช้ข้อมูลค่าไฟฟ้าและสภาพแวดล้อมการขุดในช่วงปี 2009 ถึง 2010 มาแบ่งออกเป็น 3 สมมติฐาน เพื่อประเมินต้นทุนการขุดของซาโตชิ โดยในสถานการณ์แรก ซึ่งถือว่าเป็นเงื่อนไขขั้นต่ำสุด หากใช้เครื่องขุดเพียงเครื่องเดียว ที่กินไฟเพียง 190 วัตต์ และทำงาน 75% ของเวลาในแต่ละวัน จะทำให้ต้นทุนรวมอยู่ที่ประมาณ 191 ดอลลาร์ หรือราว 265,000 วอนเท่านั้น

สมมติฐานที่สองอ้างอิงจาก ‘รูปแบบแพโตชิ(Patoshi Pattern)’ ซึ่งมาจากงานวิจัยของเซร์จิโอ เลอร์เนอร์(Sergio Lerner) ที่ได้ศึกษาค่า nonce ที่ปรากฏซ้ำในบล็อกบิตคอยน์ช่วงแรก และเสนอว่าซาโตชิอาจใช้ชุดอุปกรณ์ขุดหลายเครื่องแบบคลัสเตอร์ หากเป็นเช่นนั้น ค่าขุดในสหรัฐอยู่ที่ราว 575 ดอลลาร์ (ประมาณ 799,000 วอน) และหากใช้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยทั่วโลก อาจสูงถึง 1,000 ดอลลาร์ หรือราว 1.39 ล้านวอน

ในสมมติฐานสุดท้าย เป็นกรณีที่ความยากในการขุดค่อยๆ เพิ่มขึ้น จนทำให้ซาโตชิต้องใช้พลังงานมากขึ้นตามไปด้วย ต้นทุนรวมในกรณีนี้อาจสูงสุดถึง 3,700 ดอลลาร์ หรือราว 5.14 ล้านวอน

การขุดบิตคอยน์ในช่วงแรกนั้นง่ายกว่าปัจจุบันมาก ความยากในการขุดยังต่ำมาก และแทบไม่มีคู่แข่ง ทำให้แม้ใช้เพียงคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีภายใต้การใช้ไฟน้อย จึงไม่แปลกที่ซาโตชิจะสามารถขุดเหรียญได้จำนวนมหาศาลภายใต้ต้นทุนต่ำ

มีการคาดการณ์ว่าซาโตชิ นากาโมโตะยังคงถือครองบิตคอยน์ราว 1 ล้านเหรียญ ซึ่งหากคิดเป็นมูลค่าปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 120,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 167 ล้านล้านวอน ซึ่งเทียบเท่ากับอันดับต้นๆ ของเศรษฐีโลกเลยทีเดียว

ในขณะที่เดวิด ชวาร์ตซ์(David Schwartz) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของริปเปิล(XRP) ก็เปิดเผยว่าเขาเคยขุดบิตคอยน์จำนวน 250 เหรียญในขณะที่ราคายังอยู่ที่ 30 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างต้นทุนด้านพลังงานการขุดในอดีตที่ถูกกว่าปัจจุบันอย่างมาก "ความคิดเห็น" การเปรียบเทียบเช่นนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้เข้าใจประวัติศาสตร์ของบิตคอยน์ แต่ยังสะท้อนถึงวิวัฒนาการของระบบเศรษฐกิจการขุดในยุคปัจจุบันอีกด้วย