บิตคอยน์(BTC) ยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบ ใกล้แนวต้าน 120,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.66 ล้านบาท โดยไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้ชัดเจน สถานการณ์นี้อาจบ่งชี้ว่า ‘การเบรกเอาต์ครั้งสำคัญ’ กำลังจะเกิดขึ้น เร็วๆ นี้ตลาดยังเฝ้ารอติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการ FOMC ของสหรัฐ และการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจส่งผลชี้ทิศทางใหม่ให้กับตลาดคริปโต
แม้ภาพรวมของตลาดจะอยู่ในช่วงรอดูท่าที แต่บิตคอยน์ยังคงแสดงสัญญาณเชิงบวก อย่างไรก็ตาม ความกังวลต่อ ‘แรงกดดันด้านฤดูกาล’ ก็ยังมีอยู่ โดยนักวิเคราะห์คริปโตชื่อ อักเซล แอดเลอร์ จูเนียร์(Axel Adler Jr.) ชี้ว่า ในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา บิตคอยน์สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยในเดือนสิงหาคมเพียง 2.56% เท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ ‘แนวโน้มขาขึ้น’ ถูกจำกัดในระยะสั้น
แม้จะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่ยังมี ‘นักลงทุนสถาบัน’ หลายรายที่มองว่านี่คือ ‘โอกาสในการซื้อสะสม’ ล่าสุดบริษัทคริปโตชื่อ สเตรทิจี(Strategy) ได้เข้าซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีก 21,021 BTC ที่ราคาเฉลี่ยประมาณ 117,256 ดอลลาร์ หรือราว 1.63 ล้านบาทต่อเหรียญ ส่งผลให้ยอดถือครองรวมในพอร์ตเพิ่มขึ้นสู่ 628,791 BTC ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่สะท้อนมุมมองบวกในระยะยาว
แม้ตลาดอาจยังมีความผันผวนระยะสั้นและความไม่แน่นอนจากปัจจัยตามฤดูกาล แต่ ‘แรงหนุนจากมุมมองบวกระยะยาว’ กำลังผลักดันบิตคอยน์ให้เตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนทิศทางครั้งใหญ่ โดยเฉพาะผลการประชุม FOMC และสัญญาณจากตลาดหุ้นสหรัฐที่จะเป็นตัวแปรสำคัญ นักลงทุนจึงควรจับตาท่าทีจากธนาคารกลางสหรัฐอย่างใกล้ชิดในช่วงนี้
ความคิดเห็น 0