ธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 สวนทางกับคำเรียกร้องให้ลดดอกเบี้ยจากทรัมป์ โดยผลการตัดสินใจดังกล่าวแม้จะไม่เหนือความคาดหมาย แต่ก็ยังไม่ได้คลายความไม่แน่นอนของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะ *บิตคอยน์(BTC)* แต่อย่างใด
เมื่อวันที่ 30 (เวลาท้องถิ่น) ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐ (FOMC) มีมติ 9 ต่อ 2 ให้ *คงอัตราดอกเบี้ย* ไว้ที่ระดับปัจจุบัน โดยเฟดให้เหตุผลว่า แม้เศรษฐกิจของสหรัฐกำลังเติบโตในระดับปานกลางและเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง แต่ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง และอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ยังคงเดินหน้าเรียกร้องให้ *เจอโรม พาวเวลล์* ประธานเฟด ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยเสนอให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ พร้อมกล่าวอีกว่า "มีสัญญาณว่า ในการประชุมเดือนกันยายน เฟดจะลดดอกเบี้ยในที่สุด" ส่งผลให้ตลาดเกิดความสับสน
การตัดสินใจของเฟดครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผลผลิตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของสหรัฐในไตรมาส 2 พุ่งสูงเกินความคาดหมาย ซึ่งถือเป็นสัญญาณการฟื้นตัวหลังจากการชะลอตัวชั่วคราวในไตรมาสแรก แม้เศรษฐกิจกำลังปรับตัวดีขึ้น แต่เฟดยังคงยึดแนวทาง ‘เข้มงวด’ แทนที่จะเลือกผ่อนคลายตามแนวทางของสายพิราบ ซึ่งสะท้อนถึงความระมัดระวังต่อแนวโน้มเงินเฟ้อ
ด้านตลาด *บิตคอยน์(BTC)* สะท้อนความไวต่อประกาศของเฟดอย่างชัดเจน โดยมีความผันผวนก่อนและหลังการประชุม แต่ล่าสุดราคาฟื้นตัวมาอยู่ในช่วง 118,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.64 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ทิศทางของราคา *บิตคอยน์* ยังขึ้นอยู่กับมาตรการดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อสภาพคล่องในตลาดคริปโต
การจับตาครั้งสำคัญจึงมุ่งไปยังการประชุมในเดือนกันยายน โดยแรงกดดันจากทรัมป์ การเคลื่อนไหวของข้อมูลเศรษฐกิจ และทิศทางเงินเฟ้อจะกลายเป็นปัจจัยแวดล้อมที่อาจขับเคลื่อน *ความผันผวนของราคา* *บิตคอยน์* ให้รุนแรงยิ่งขึ้น สำหรับนักลงทุนในคริปโต การประชุมเฟดครั้งต่อไปจึงอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของปีนี้
ความคิดเห็น 0