กระเป๋าสตางค์บิตคอยน์(BTC) ในยุคของ *ซาโตชิ นากาโมโตะ* ที่เงียบหายไปนานกว่า 15 ปีได้กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้งเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม โดยกระเป๋านี้ซึ่งสร้างขึ้นในปี 2010 และไม่เคยใช้งานมาก่อน ได้ทำการโอนบิตคอยน์จำนวน 50 BTC ออกไปทั้งหมด ทำให้สังคมคริปโตให้ความสนใจทันที เนื่องจากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นกว่า *11,833,000%* จากวันที่ขุดเหรียญจนถึงปัจจุบัน
ตามรายงานจาก Whale Alert แพลตฟอร์มติดตามธุรกรรมคริปโตเมื่อวันที่ 31 (เวลาท้องถิ่น) ระบุว่า ในช่วงต้นปี 2010 มูลค่าของบิตคอยน์เพียง 1 BTC อยู่ที่ประมาณ 0.1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 139 บาท ในขณะที่ปัจจุบัน 1 BTC มีราคาเฉลี่ยราว 59,166 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8.2 ล้านบาท ส่งผลให้บิตคอยน์ทั้ง 50 BTC ที่เคยขุดไว้ มีมูลค่ารวมสูงถึงประมาณ *2.95 ล้านดอลลาร์* หรือราว *41.7 ล้านบาท*
ที่น่าสนใจคือ กระเป๋านี้ได้ดำเนินการโอนเหรียญทั้งหมดไปยังกระเป๋าแบบ *เซกวิท(SegWit)* ในธุรกรรมเดียวโดยไม่มีการส่งทดสอบใดๆ ซึ่งขัดแย้งกับรูปแบบที่พบนิยมในหมู่นักขุดยุคแรกที่มักทดสอบส่งจำนวนเล็กน้อยก่อน การย้ายดังกล่าวต่อมาได้ผ่านอีกหนึ่งกระเป๋าที่ไม่ได้ใช้งานก่อนจะไปถึงปลายทางซึ่งปัจจุบันถือครองบิตคอยน์รวม 100 BTC หรือมูลค่าราว *5.91 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* หรือกว่า *83 ล้านบาท*
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมองว่า การเคลื่อนไหวของทรัพย์สินนี้มีความพิเศษ เพราะเป็นหนึ่งในไม่กี่กรณีที่ไม่ปรากฏสัญญาณของการทดสอบหรือแบ่งโอน แถมยังทำอย่างประณีตและเป็นระบบ ทำให้หลายฝ่ายในชุมชนเริ่มตั้งคำถามถึงเจ้าของกระเป๋า บางคนถึงกับสันนิษฐานว่าอาจเกี่ยวข้องกับ *ซาโตชิ นากาโมโตะ* หรือเครือข่ายใกล้ชิดในยุคบุกเบิกของบิตคอยน์ เนื่องจากกระเป๋านี้สร้างขึ้นในช่วงที่บิตคอยน์ยังถูกมองว่าเป็น "การทดลองทางดิจิทัล" และซาโตชิเองก็ยังแอคทีฟในฟอรั่มของนักพัฒนา
แม้ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเหตุผลที่โอน BTC ดังกล่าวคืออะไร ไม่ว่าจะเป็นการขาย, การจัดระเบียบทรัพย์สิน, หรือการโอนเพื่อจัดเก็บระยะยาว แต่การที่มีการเคลื่อนไหวของบิตคอยน์จากยุคแรกเริ่มที่ไม่ได้แตะต้องมานานกว่า *5,600 วัน* ก็เพียงพอที่จะแจ้งเตือนตลาดให้จับตาดูอย่างใกล้ชิด
บิตคอยน์มีอุปทานทั้งหมดจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยที่เชื่อว่าถูกทำหายไปอย่างถาวร การปรากฏของกระเป๋ายุคเริ่มต้นที่ยังสามารถเข้าถึงได้นับว่าเป็นเรื่องหายาก และทำให้ตลาดกำลังเฝ้ามองว่าเหตุการณ์นี้คือการกลับมาของนักลงทุนรายใหญ่ หรือเพียงแค่การจัดระเบียบทรัพย์สินภายในเท่านั้น
เหตุการณ์กระเป๋าเก่าเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจไม่ได้สร้างความผันผวนในตลาดในทันที แต่อาจเป็น ‘สัญญาณเตือน’ สำคัญ เพราะในโลกของคริปโต การเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวจากอดีต ก็สามารถเขย่าความมั่นใจของตลาดได้ในระดับที่คาดไม่ถึง.
ความคิดเห็น 0