ริปเปิล(XRP) ได้ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว หลังจากทำสถิติราคาสูงสุดในรอบ 7 ปี ส่งผลให้เกิดความกังวลในหมู่นักลงทุนว่าอาจแตะ ‘จุดสูงสุดของปีนี้’ ไปแล้ว โดยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ริปเปิลพุ่งขึ้นถึง 65% ภายในระยะเวลาเพียง 10 วัน จนแตะระดับ 3.65 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.07 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ราคาปัจจุบันกลับลดลงมาอยู่ที่ราว 2.9 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.03 ล้านบาท) ซึ่งลดลงมากกว่า 20% จากจุดสูงสุดนั้น หลังจากความผันผวนที่เห็นได้ชัด ทางผู้เชี่ยวชาญในวงการคริปโตได้นำโมเดล AI อย่าง แชตจีพีที(ChatGPT), โกรก(Grok) และ เจมีนี(Gemini) มาวิเคราะห์สถานการณ์ของ XRP ในมุมมองที่แตกต่างกัน
แชตจีพีทีมองว่าการลดลงล่าสุดถือเป็น ‘การปรับฐานที่ดีต่อสุขภาพ’ โดยหากราคาสามารถยืนเหนือระดับแนวรับที่ 2.8–3 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.89–4.17 ล้านบาท) ได้ ก็มีโอกาสกลับตัวขึ้นต่อ พร้อมชี้ว่าหาก *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ริปเปิลเองก็มีโอกาสเคลื่อนไหวตาม ส่วนหนึ่งของปัจจัยหนุนสำคัญคือความเป็นไปได้ของการอนุมัติ *ETF ริปเปิลแบบสปอต* และการสิ้นสุดข้อพิพาททางกฎหมายกับ *คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC)* ซึ่งอาจเป็น ‘โมเมนตัมขาขึ้นระยะสั้น’
โกรกก็ให้ความเห็นในทำนองเดียวกัน โดยมองว่าราคาสูงสุดที่ 3.65 ดอลลาร์นั้นถือเป็น ‘หมุดหมายเชิงจิตวิทยาที่มีนัยสำคัญ’ และยังเปิดโอกาสสำหรับการขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม โกรกเน้นว่าสถานการณ์เช่นนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมี ‘แรงหนุนจากตลาดที่แข็งแกร่ง’ หรือ ‘ข่าวบวกด้านนโยบาย’ เข้ามาสนับสนุน ซึ่งในมุมมองของระบบ AI นี้ การปรับฐานในขณะนี้เป็นผลจากการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนหน้า ถือว่า ‘สมเหตุสมผล’
ทางด้านเจมีนีให้มุมมองที่ระมัดระวังมากกว่า โดยชี้ว่า *ตลาดโอนเงินข้ามประเทศ* ที่ XRP ดำเนินธุรกิจอยู่กำลังเผชิญการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะจาก *สเตลลาร์(XLM)* ซึ่งอาจแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด ขณะเดียวกัน ก็เตือนว่าราคา XRP ยัง ‘มีแนวโน้มปรับตัวลงต่อ’ และการฟื้นตัวอย่างมั่นคงอาจต้องรอถึงปี 2026 ซึ่งเป็นมุมมอง *ระยะกลางถึงยาว*
อย่างไรก็ดี แชตจีพีทียังเสนอ ‘กรณีเชิงลบ’ ว่าหาก XRP ไม่มีตัวเร่งใหม่ที่ชัดเจน อาจทำให้เม็ดเงินลงทุนไหลไปยังสินทรัพย์อื่น เช่น *โทน(TON)*, *โซลานา(SOL)* หรือคริปโตสาย *มีมคอยน์* ซึ่งอาจส่งผลให้ราคา XRP ไม่สามารถเร่งตัวในระยะสั้นได้
สรุปแล้ว แชตจีพีทีและโกรกยังคงมี *มุมมองเชิงบวก* ต่อ XRP โดยแชตจีพีทีระบุว่า XRP อาจสามารถไต่ขึ้นไปที่ระดับ 4–5 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.56–6.95 ล้านบาท) ภายในปีนี้ สวนทางกับโกรกที่มองเป้าไกลถึง 8 ดอลลาร์ (ประมาณ 11.12 ล้านบาท) ซึ่งทั้งสองกรณีต่างมาพร้อมเงื่อนไข เช่น การพลิกฟื้นความเชื่อมั่นตลาด, การอนุมัติ ETF และการประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรรายใหญ่
คำถามที่ตลาดยังรอคำตอบคือ: การปรับฐานครั้งนี้ เป็นเพียง ‘การพักตัวชั่วคราว’ หรือคือสัญญาณว่า XRP ได้ผ่านจุดสูงสุดของปีนี้ไปแล้ว? *ความคิดเห็น* ในวงการยังแตกต่างกัน แต่ในภาพรวม ความคาดหวังต่อ XRP ยังคงดำเนินต่อไปร่วมกับความไม่แน่นอนของกฎระเบียบ การลงทุนจากสถาบัน และนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่จะเข้ามากำหนดทิศทางในอนาคต
ความคิดเห็น 0