เจเรมี ดาวินชี(Davinci Jeremie) นักลงทุนยุคแรกของบิตคอยน์(BTC) ได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียเมื่อไม่นานมานี้ โดยสื่อสาร ‘คำเตือนสำคัญ’ ถึงทิศทางของตลาดคริปโต อย่างไรก็ตาม ข้อความของเขากลับแตกต่างจากแนวโน้มด้านลบทั่วไป และให้ภาพ ‘เชิงบวก’ อย่างชัดเจน โดยเขาโพสต์ข้อความสั้นว่า “เมื่อเทียบกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น คุณยังมีบิตคอยน์น้อยเกินไป” ซึ่งบอกใบ้ถึงการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง และเป็นสัญญาณว่าช่วงเวลาสำคัญในการซื้ออาจใกล้เข้ามาแล้ว
ข้อความดังกล่าวดึงความสนใจจากผู้ลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะเมื่อเชื่อมโยงกับความเป็นไปได้ที่ ‘ผู้เล่นรายใหญ่’ เช่นสถาบันการเงินจากวอลล์สตรีทจะเริ่มเข้าสู่ตลาดมากขึ้น เจเรมีเคยคาดการณ์ผ่านโพสต์ในอดีตว่า บิตคอยน์อาจพุ่งแตะระดับ *500,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.95 ล้านบาท)* และจากนั้นจะไม่ลดลงต่ำกว่า *100,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.39 ล้านบาท)* อีกเลย ซึ่งมุมมองล่าสุดของเขายังคงสนับสนุนการเร่งสะสม BTC ก่อนที่สถาบันเหล่านี้จะลงมือจริงอย่างเต็มรูปแบบ
ผู้เล่นสำคัญที่เจเรมีกล่าวถึง ได้แก่ กองทุน ETF ของสหรัฐ, กองทุนเชิงกลยุทธ์, บริษัทมหาชน, กองทุนเฮดจ์ฟันด์ และในระดับที่ใหญ่กว่านั้น คือ ‘ประเทศ’ ที่ยอมรับบิตคอยน์อย่าง *เอลซัลวาดอร์* ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนคุณลักษณะของ BTC จาก ‘ทองคำดิจิทัล’ ไปสู่ ‘สินทรัพย์ทางเศรษฐกิจมหภาค’ ที่มีศักยภาพสูง
ความเห็นนี้สอดคล้องกับมุมมองของอาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) อดีตซีอีโอของบิทแม็กซ์(BitMEX) ที่ประเมินความเสี่ยงทางเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงนโยบายภาษีและข้อมูลการจ้างงาน โดยเขามองว่า บิตคอยน์กำลังเข้าใกล้ระดับ *100,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.39 ล้านบาท)* และอีเธอเรียม(ETH) อาจเผชิญแรงกดดันที่ระดับ *3,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 417,000 บาท)* ทั้งนี้ เขาได้ขายอีเธอเรียมมูลค่ากว่า *8.32 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 115.5 ล้านบาท)* เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งสะท้อนถึงการปรับกลยุทธ์ตามภาวะตลาด
แนวโน้มที่บิตคอยน์ได้รับการประเมินเชิงบวกมากขึ้นในช่วงนี้ ไม่ใช่เพียงแค่กระแสชั่วคราว แต่เป็นสัญญาณของ ‘การปรับโครงสร้างสินทรัพย์’ ที่มีสถาบันและรัฐบาลเป็นผู้นำ เป็นที่ชัดเจนว่า ข้อความจากเจเรมีและเฮย์สชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการมองตลาดระยะยาว และปรับยุทธศาสตร์การลงทุน เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่จะเกิดขึ้นในโลกคริปโตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ความคิดเห็น 0