บิตคอยน์(BTC) เผชิญแรงเทขายหนักในตลาดสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (เวลาท้องถิ่น) โดยกองทุน ETF ประเภทสปอตของบิตคอยน์มี ‘เงินทุนไหลออก’ สุทธิถึง 812.25 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.12 หมื่นล้านบาท) ซึ่งถือเป็นการสูญเสียในวันเดียวที่มากเป็นอันดับสองในประวัติการณ์ พลิกแนวโน้มการไหลเข้าอย่างต่อเนื่องที่เกิดขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ก่อนหน้านั้นโดยสิ้นเชิง
ผลจากเงินทุนไหลออกในครั้งนี้ ส่งผลให้ยอด ‘เงินทุนไหลเข้าสุทธิสะสม’ ของ ETF สปอตบิตคอยน์ลดลงมาอยู่ที่ 54.18 พันล้านดอลลาร์ (โดยประมาณ 7.5 ล้านล้านบาท) ส่วนมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ก็ลดลงมาอยู่ที่ 146.48 พันล้านดอลลาร์ (ราว 20.3 ล้านล้านบาท) หรือคิดเป็นประมาณ *6.46%* ของมูลค่าตลาดรวมของบิตคอยน์
หากดูรายตัว พบว่า ETF ของฟิเดลิตีคือ FBTC บันทึกการถอนทุนออกสูงสุดที่ 331.42 ล้านดอลลาร์ (ราว 4.6 พันล้านบาท) ตามมาด้วย ARKB ที่บริหารโดยอาร์คอินเวสต์ ซึ่งสูญเสีย 327.93 ล้านดอลลาร์ (ราว 4.5 พันล้านบาท) และ GBTC ของเกรย์สเกลที่มีเงินทุนไหลออก 66.79 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 930 ล้านบาท) ขณะที่ IBIT ของแบล็คร็อกขาดทุนน้อยที่สุดที่ 2.58 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 36 ล้านบาท)
ไม่เพียงแต่บิตคอยน์ที่ได้รับผลกระทบ ความร้อนแรงของ ETF อีเธอเรียม(ETH) ก็เริ่มลดลงเช่นกัน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อีเธอเรียม ETF สูญเสียเงินทุนไหลออกถึง 152.26 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.1 พันล้านบาท) ยุติสถิติการไหลเข้าต่อเนื่องยาวถึง *20 วันทำการ* มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการของกองทุนอยู่ที่ 20.11 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.7 ล้านล้านบาท) หรือราว *4.7%* ของมูลค่าตลาดรวมของอีเธอเรียม
‘ความเชื่อมั่นของนักลงทุน’ ต่อ ETF สปอตคริปโตดูเหมือนจะอ่อนไหวมากต่อสภาพตลาดที่กำลังอยู่ในช่วงปรับฐาน ทั้งบิตคอยน์และอีเธอเรียมต่างมีแรงซื้อที่เริ่มอ่อนลงบริเวณแนวต้านทางเทคนิคที่สำคัญ ทิศทางของกระแสเงินทุนใน ETF จึงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดว่าจะส่งผลอย่างไรต่อราคาสินทรัพย์เหล่านี้ในอนาคต ความเห็นหนึ่งระบุว่า “ETF ในตลาดกระทิงอาจเป็นเร่งราคา แต่ในตลาดผันผวนก็อาจย้อนกลับมาเป็นแรงกดดันได้เช่นกัน”
ความคิดเห็น 0