วงการการเมืองในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับการปะทะกันอย่างชัดเจนระหว่างกลุ่มแรงงานและภาคอุตสาหกรรม เกี่ยวกับข้อเสนอให้อนุญาตใช้เงินในบัญชีเพื่อการเกษียณอายุ เช่น 401(k) ในการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่าง *บิตคอยน์(BTC)* โดยฝ่ายแรงงานแสดงความกังวลเรื่อง *ความผันผวนสูง* และ *ลักษณะการเก็งกำไร* ของคริปโตซึ่งอาจส่งผลเสียรุนแรงต่อเงินออมของผู้เกษียณ
ข้อเสนอที่จุดชนวนความขัดแย้งนี้คือร่างกฎหมายปรับโครงสร้างตลาดคริปโต ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ในวุฒิสภาสหรัฐฯ กฎหมายนี้จะเปิดทางให้บัญชีเกษียณแบบ *401(k)* สามารถลงทุนในทรัพย์สินดิจิทัลบางประเภทได้ หนึ่งในผู้คัดค้านสำคัญคือ *สหพันธ์ครูแห่งอเมริกา(AFT)* ซึ่งส่งจดหมายอย่างเป็นทางการถึงคณะกรรมาธิการด้านการเงินของวุฒิสภาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ระบุชัดว่า การนำเงินเกษียณไปลงทุนในคริปโต อาจสร้าง ‘ความเสี่ยงเชิงเก็งกำไรที่สูงเกินไป’
AFT เน้นว่า *“เงินออมเพื่อเกษียณควรได้รับการคุ้มครองเพื่อการเติบโตระยะยาวอย่างมีเสถียรภาพ”* พร้อมระบุว่า การรวมสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงอย่างคริปโตนั้นเป็นเรื่อง ‘ไร้ความรับผิดชอบ’
อย่างไรก็ตาม แวดวงอุตสาหกรรมคริปโตและนักลงทุนจำนวนหนึ่งได้ออกมาตอบโต้ทันที โดยบางฝ่ายระบุว่า ข้อกังวลของ AFT เป็นการวิจารณ์ที่ ‘ขาดความเข้าใจทางเทคนิค’ และ ‘บิดเบือนความเป็นจริง’ นักลงทุนคริปโตรายหนึ่งเขียนผ่านโซเชียลมีเดียว่า “AFT แสดงจุดยืนที่ขาดเหตุผลและเต็มไปด้วยอคติในการถกเถียงเรื่องกฎระเบียบตลาดคริปโต”
นอกจากนี้ ฝ่ายแรงงานบางส่วนยังกังวลเพิ่มเติมว่า หาก *ประธานาธิบดีทรัมป์* กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง รัฐบาลของเขาอาจจะเดินหน้าสนับสนุนคริปโตอย่างเต็มตัว ซึ่งจะทำให้การลงทุนด้วยเงินเกษียณในคริปโตกลายเป็นเรื่องที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้จริง ทั้งนี้ ทรัมป์ได้แสดงจุดยืนสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลหลายครั้ง ทั้งผ่านทวิตเตอร์และกิจกรรมชุมนุมต่างๆ
ในฝั่งตรงกันข้าม กลุ่มผู้สนับสนุนคริปโตให้ความเห็นว่า สินทรัพย์ดิจิทัลสามารถเป็นหนึ่งในเครื่องมือกระจายความเสี่ยงทางการเงินในอนาคต และควรอนุญาตให้ประชาชนสามารถเลือกลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าวได้ภายใต้กรอบเงื่อนไขที่เหมาะสม *ความคิดเห็น*: ประเด็นนี้สะท้อนถึงแนวโน้มสำคัญของการผลักดันคริปโตเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแบบสถาบัน
การพิจารณาร่างกฎหมายนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในวุฒิสภา และประเด็นเรื่องการรวม ‘ทรัพย์สินดิจิทัล’ เข้าในพอร์ตการลงทุนเพื่อเกษียณ จะเป็นหนึ่งในหัวข้อถกเถียงหลักของการเมืองวอชิงตันในช่วงต่อไปอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น 0