ริปเปิล(XRP) กำลังส่งสัญญาณชัดเจนว่าอาจกำลังเข้าสู่ช่วง ‘ปรับฐาน’ อีกครั้ง หลังราคาลดลงมากกว่า 8% ตลอดช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้เคยแสดงความแข็งแกร่งท่ามกลางการชะลอตัวของตลาดโดยรวม แต่ล่าสุด XRP กลับหลุดแนวรับทางเทคนิคสำคัญ ทำให้ความไม่แน่นอนทวีความรุนแรงขึ้น
ก่อนหน้านี้ XRP พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ราคา 3.65 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,074 บาท) ก่อนจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 3.3 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,587 บาท) นักวิเคราะห์หลายรายเคยระบุว่าแนวรับที่ 3 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,170 บาท) จะเป็นจุดยืนสุดท้ายของแรงขาย แต่สุดท้ายแนวดังกล่าวก็ถูกทะลุลงมา แม้ว่า *ราคาปิดรายวัน* ยังไม่หลุดชัดเจน แต่หลายฝ่ายกังวลว่าราคาอาจถอยไปแตะแนวรับถัดไปที่ 2.8 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,892 บาท) หรือต่ำสุดถึง 2.5 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,475 บาท)
*สัญญาณทางเทคนิค* เองก็เริ่มส่งเสียงเตือนเช่นกัน อ้างอิงจากนักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez) ระบุว่า เครื่องมือวิเคราะห์ TD Sequential บนกราฟ 4 ชั่วโมงเริ่มให้สัญญาณ ‘ขาย’ ซึ่งมักหมายถึงการกลับตัวลงในระยะสั้น ขณะเดียวกัน มาร์ติเนซยังชี้ว่าอัตราส่วน MVRV บ่งชี้ว่าราคา XRP ลดต่ำกว่าราคาซื้อเฉลี่ยของนักลงทุน ส่งผลให้เกิด *เดธครอส (Death Cross)* ซึ่งมักเป็นสัญญาณการปรับฐานเพิ่มเติม
อีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างความกังวลคือความเคลื่อนไหวของ ‘วาฬคริปโต’ หรือ *ผู้ถือครองรายใหญ่* ขณะที่ราคา XRP พุ่งทำนิวไฮเหล่าผู้เล่นรายใหญ่เคยทุ่มเงินซื้อ XRP ครั้งละหลายพันล้านบาท แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้สถานการณ์กลับตาลปัตร เมื่อมีกลุ่มวาฬเทขาย XRP จำนวนกว่า 710 ล้านเหรียญ ในช่วงเวลาเพียงวันเดียว คิดเป็นมูลค่าราว 2.9 หมื่นล้านบาท การเร่งขายในปริมาณมากเช่นนี้ก่อให้เกิด *แรงกดดันต่อราคา* อย่างรุนแรง และอาจจุดชนวนความกลัวในหมู่นักลงทุนรายย่อย ซึ่งนำไปสู่การขายแบบตื่นตระหนก (Panic Sell) ได้ในที่สุด
จากสถานการณ์ปัจจุบัน แนวโน้มราคาของริปเปิล(XRP) จึงขึ้นอยู่กับสามปัจจัยหลักคือ สัญญาณทางเทคนิค ความเคลื่อนไหวของวาฬ และสภาวะจิตวิทยาของผู้ลงทุน หากราคาหลุดปิดต่ำกว่าระดับ 3 ดอลลาร์ จะยิ่งกระตุ้นแรงขายจากการตัดขาดทุนของผู้ถือเหรียญ ซึ่งอาจทำให้ตลาดคริปโตต้องรับมือกับแรงกดดันระลอกใหม่ นักลงทุนจึงควรจับตา *พฤติกรรมราคา* อย่างใกล้ชิดและตัดสินใจด้วยความระมัดระวังในช่วงนี้
ความคิดเห็น 0