‘แม่คริปโต’ เพียร์ซจี้สหรัฐปฏิรูปกฎหมายการเงิน ชูสิทธิความเป็นส่วนตัวในยุคคริปโต

เฮสเตอร์ เพียร์ซ(Hester Peirce) กรรมาธิการจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สนับสนุนแนวคิดมิตรกับคริปโต ได้ออกมาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวด้านการเงินในยุคดิจิทัลผ่านบทพูดสำคัญเมื่อเร็วๆ นี้ โดยชี้ว่า *กฎหมายการต่อต้านการฟอกเงิน* ที่สำคัญของสหรัฐอย่าง *กฎหมายความลับทางการธนาคาร(BSA)* และหลักการ 'บุคคลที่สาม’ (*Third-party doctrine*) ควรได้รับการปรับปรุงให้สอดคล้องกับยุคสมัยปัจจุบัน เนื่องจากกฎหมายเหล่านี้เปิดทางให้รัฐบาลสามารถเข้าถึงข้อมูลทางการเงินของประชาชนได้โดยไม่ต้องมีหมายศาล ซึ่งเพียร์ซระบุว่าเป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวโดยไม่จำเป็น และไม่สอดรับกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน

เพียร์ซกล่าวในงานประชุมบล็อกเชนว่า “แม้ว่าการปกป้องครอบครัวและสังคมเป็นเรื่องสำคัญ แต่ *สิทธิในความเป็นส่วนตัวทางการเงินควรได้รับการปกป้องอย่างแข็งขัน*” พร้อมชี้ว่า การเก็บข้อมูลมากเกินไปโดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนมักไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม เธอเน้นถึงบทบาทของเทคโนโลยีใหม่อย่าง การเข้ารหัสข้อมูล, การพิสูจน์แบบ Zero-Knowledge และ สัญญาอัจฉริยะ ซึ่งสามารถสร้างระบบการเงินแบบกระจายอำนาจขึ้นได้โดยไม่ต้องพึ่งพาตัวกลาง

เพื่ออธิบายอนาคตของระบบการเงินแบบไม่มีคนกลาง เพียร์ซได้เปรียบเทียบว่าในอดีต เราจำเป็นต้องพึ่งพาพนักงานแลกสายโทรศัพท์ในการติดต่อสื่อสาร แต่ในปัจจุบัน เราสามารถใช้โทรศัพท์โดยไม่ต้องผ่านบุคคลที่สาม เช่นเดียวกับที่ ‘คริปโตเคอร์เรนซี’ จะเปิดทางสู่ระบบการเงินที่ไม่ต้องพึ่งพาคนกลาง

แวดวงคริปโตให้การตอบรับในเชิงบวกต่อคำพูดของเพียร์ซ ปีเตอร์ แวน วาลเคนเบิร์ก(Peter Van Valkenburgh) ผู้อำนวยการจาก CoinCenter กล่าวว่า คำอภิปรายของเพียร์ซ ครั้งนี้คือ *“หนึ่งในถ้อยแถลงที่ชัดเจนที่สุดเกี่ยวกับการปกป้องสิทธิความเป็นส่วนตัวทางการเงิน”* ขณะที่เนต เจราซี(Nate Geraci) ผู้บริหารจาก NovaDius Wealth Management กล่าวว่า “ผู้ที่อยู่ในแวดวงคริปโตทุกคนควรอ่านเนื้อหาการอภิปรายฉบับเต็มให้ได้”

การแสดงความเห็นครั้งนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากเกิดขึ้นท่ามกลางความเห็นที่แตกต่างกันใน SEC ซึ่งกรรมาธิการบางคนยังคงมีท่าทีต่อต้านสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเข้มงวด ในอดีต เพียร์ซเคยออกมาวิจารณ์การกำกับดูแลที่ไม่สมดุลในอุตสาหกรรมคริปโต จนได้รับฉายาว่า *‘แม่คริปโต’(Crypto Mom)* ซึ่งการกล่าวสุนทรพจน์ล่าสุดของเธอจึงอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยกำหนดทิศทางการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล และความสมดุลระหว่างความปลอดภัยกับความเป็นส่วนตัวทางการเงินในโลกยุคใหม่