อีเธอเรียม(ETH) เผชิญแรงเทขายหนักในตลาด ETF แบบสปอตของสหรัฐ หลังจากเมื่อวันที่ 8 (เวลาท้องถิ่น) ตลาด ETF ในประเทศสหรัฐอเมริกาบันทึกการไหลออกของเงินทุนสุทธิจากกองทุนสปอตอีเธอเรียมมากถึง 465 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6,464 พันล้านวอน ซึ่งเป็นสถิติ ‘เงินไหลออกสูงสุดภายในวัน’ นับตั้งแต่กองทุนเริ่มต้นทำการซื้อขาย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ลดลงอย่างรวดเร็วของนักลงทุนต่อสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่อันดับสองของโลก
ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์การลงทุน ฟาร์ไซด์อินเวสเตอร์ส(Farside Investors) ระบุว่า การไหลออกของเงินทุนในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองหลังจากที่กองทุนเพิ่งสิ้นสุดช่วงเวลา ‘ไหลเข้าสุทธิ 20 วันติดต่อกัน’ เมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา เพียงสองวันก่อนหน้าก็มีการไหลออกถึง 152 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,113 พันล้านวอน ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับกระแสการชะลอของกระแสทุนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สิ่งที่โดดเด่นคือการไหลออกจากกองทุนในความดูแลของแบล็คร็อก(BLK) ซึ่งเป็นรายใหญ่ที่สุดในกลุ่ม ETF อีเธอเรียม ยิ่งทำให้แรงสั่นสะเทือนต่อตลาดขยายวงกว้างมากขึ้น
สถานการณ์นี้ตัดกับบรรยากาศเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง ซึ่งในขณะนั้นตลาดสปอตอีเธอเรียม ETF สามารถดึงดูดเงินทุนไหลเข้าสุทธิรวมทั้งเดือนมากถึง 5,430 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 7.5 ล้านล้านวอน ท่ามกลางแรงซื้ออย่างคึกคักและความเชื่อมั่นเชิงบวกของนักลงทุน แต่ทิศทางที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วล่าสุดชี้ให้เห็นว่า ‘จิตวิทยาตลาด’ กำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญ
ด้านราคาก็ไม่พ้นผลกระทบ โดยอีเธอเรียม(ETH) ร่วงจากระดับ 3,858 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 536,000 บาท) เมื่อวันที่ 4 ไปแตะระดับต่ำสุดที่ 3,380 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 470,000 บาท) ในวันที่ 7 ลดลงไปกว่า 12% ก่อนจะฟื้นตัวเล็กน้อยมาที่ 3,629 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 504,000 บาท) ในวันที่ 9 ซึ่ง ‘ความคิดเห็น’ ของผู้เชี่ยวชาญมองว่าส่วนหนึ่งสะท้อนถึงแรงขายจากนักลงทุนที่ตัดขาดสถานะหรือ ‘เทขายพอร์ต’
การเปลี่ยนแปลงในตลาด ETF อีเธอเรียมครั้งนี้ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดในฐานะ ‘ดัชนีบ่งชี้’ แนวโน้มของการลงทุนในคริปโตโดยสถาบันในระยะข้างหน้า ซึ่งผลกระทบต่อภาพรวมตลาดอาจไม่ใช่แค่ชั่วคราว นักลงทุนจึงยังคงให้ความสนใจว่า แนวโน้มขาลงครั้งนี้เป็นเพียงการปรับฐานระยะสั้น หรือสื่อถึงจุดเปลี่ยนเชิงโครงสร้างที่อาจยาวนานกว่านั้น
ความคิดเห็น 0