ทรัมป์เตรียมสั่งการรัฐ ปลดล็อกข้อจำกัดการเงินต่อธุรกิจคริปโตในสหรัฐ
ประธานาธิบดีทรัมป์อยู่ระหว่างพิจารณาออกคำสั่งฝ่ายบริหารที่อาจเปลี่ยนโฉมภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมคริปโตในสหรัฐ โดยแผนดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อยกเลิกข้อจำกัดทางการเงินที่เคยขัดขวางไม่ให้ธุรกิจคริปโตเข้าถึงระบบธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารที่เคย *ปิดกั้นหรือจำกัดการทำธุรกรรม* กับบริษัทในภาคส่วนนี้อาจถูกลงโทษด้วย ‘ค่าปรับทางการเงิน’ หรือมาตรการทางวินัยรูปแบบอื่น
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) The Wall Street Journal รายงานว่า คำสั่งฝ่ายบริหารฉบับนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขการเลือกปฏิบัติต่อธุรกิจคริปโตมาอย่างยาวนาน โดยบางธนาคารในสหรัฐยังคง ‘ปฏิเสธ’ ให้บริการเปิดบัญชีหรือโอนเงินแก่บริษัทคริปโต ทั้งในรูปแบบของกระดานเทรด กระเป๋าคริปโต รวมถึงฟินเทคที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง *เส้นทางสำหรับการแปลงเงินตราเป็นสกุลคริปโตได้ถูกตัดขาด* ส่งผลให้บริษัทในวงการเผชิญข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการทางการเงิน
ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาวในการผลักดันให้สหรัฐกลายเป็น ‘ศูนย์กลางของสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก’ โดยปีนี้รัฐบาลทรัมป์ได้เดินหน้าพัฒนานโยบายที่เป็นรูปธรรมในหลายด้าน ทั้งการจดทะเบียน ดูแลสินทรัพย์ จัดการธุรกรรม และกำหนดระบบการบันทึกข้อมูล *เพื่อลดความไม่แน่นอนและปรับกฎระเบียบให้ง่ายขึ้น* สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรม เพิ่มศักยภาพในการให้บริการ และขยายการเข้าถึงของผู้ใช้งานทั่วไป
ชางเผิง เจา ผู้ก่อตั้งไบแนนซ์ ให้ *ความคิดเห็น* ว่า หากมาตรการนี้เกิดขึ้นจริง ผลกระทบเชิงบวกอาจขยายเกินกรอบประเทศสหรัฐ พร้อมระบุว่า “แม้แต่ในอดีต สถาบันการเงินของสหรัฐบางแห่งเคยบล็อกไม่ให้ซื้อคริปโตผ่านเครือข่ายธนาคาร แต่คำสั่งใหม่นี้อาจช่วย *ลดกำแพงการเข้าถึงระบบการเงินในระดับโลก* ได้”
บางฝ่ายมองว่ามาตรการดังกล่าวเป็นการตอบโต้อย่างเป็นทางการต่อข้อกังวลว่า สถาบันการเงินในสหรัฐกำลังใช้ยุทธศาสตร์ ‘Operation Chokepoint 3.0’ เพื่อ ‘ผลักไส’ อุตสาหกรรมคริปโตทางอ้อม โดยเมื่อเดือนก่อน ไทเลอร์ วิงเคิลวอส ผู้ร่วมก่อตั้งเจมินี ได้ออกโรงวิจารณ์อย่างรุนแรงต่อกรณีที่ธนาคาร JPมอร์แกนเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากฟินเทคในการเข้าถึงข้อมูลการเงินของลูกค้า พร้อมชี้ว่า “การกระทำเช่นนี้ *ละเมิดสิทธิในการมีอำนาจทางการเงินของผู้บริโภค* อย่างชัดเจน”
วิงเคิลวอสวิจารณ์เพิ่มเติมว่า “เจมี ไดมอนและคนใกล้ชิดของเขากำลังพยายามบ่อนทำลายวิสัยทัศน์ของทรัมป์ที่ต้องการให้สหรัฐเป็น ‘ประเทศมิตรต่อนวัตกรรมและคริปโต’ โดยตรง” พร้อมเรียกร้องให้วงการร่วมมือกันอย่างจริงจัง
ความเป็นไปได้ที่นโยบายนี้จะถูกบังคับใช้ กำลังจุดประกาย ‘ความหวัง’ ใหม่ในอุตสาหกรรม ว่าบริษัทคริปโตจะสามารถข้ามพรมแดนด้านการเงินที่เคยแยกพวกเขาออกจากโลกการเงินดั้งเดิมได้ และยังสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลสหรัฐ *ตั้งใจชัดเจน* ที่จะผลักดันสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0