นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดคริปโตแสดงความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในช่วง 8 วันที่ผ่านมา ด้วยการเข้าซื้อ *อีเธอเรียม(ETH)* มูลค่าสูงถึงราว 17.6 พันล้านวอน หรือประมาณ 1.86 ล้านล้านวอน (ราว 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่า ‘ยอดการไหลเข้าสูงสุดตลอดกาลต่อวัน’ ของสินทรัพย์ *กองทุนอีเธอเรียมแบบสปอต (ETF)* ในสหรัฐฯ อย่างชัดเจน การทุ่มซื้อมหาศาลนี้ได้กลายเป็นประเด็นสำคัญก่อนที่ตัวเลข *ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)* จะประกาศในเร็วๆ นี้ ซึ่งอาจพลิกแนวโน้มราคาของอีเธอเรียมในตลาด
ตามรายงานจาก Lookonchain เมื่อวันที่ 24 พบว่า *นักลงทุนใหม่ระดับวาฬ* รายนี้ได้ดำเนินการสร้างกระเป๋าคริปโตใหม่ 10 ใบ และค่อยๆ เข้าซื้อ *อีเธอเรียม* รวมทั้งหมด 312,052 ETH ภายในเวลาเพียง 8 วัน มูลค่ารวมคิดเป็นกว่า 1.86 ล้านล้านวอน หรือราว 1.3 พันล้านดอลลาร์ ตัวเลขนี้สูงกว่ายอดไหลเข้ารายวันสูงสุดของ ETF อีเธอเรียมในสหรัฐฯ ที่อยู่ราว 1 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.39 ล้านล้านวอน ซึ่งเป็น ‘สัญญาณเชิงบวก’ ต่อทิศทางราคาของ ETH ในระยะสั้น
ผู้เชี่ยวชาญในตลาดหลายคนมองว่า ความเคลื่อนไหวเชิงรุกของนักลงทุนรายใหญ่อาจกลายเป็น *แรงขับเคลื่อน* ให้ราคาของ *อีเธอเรียม* ทะลุแนวต้านเดิมที่ 4,890 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6.8 ล้านวอน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตลอดกาล โดยราคาปัจจุบันยังต่ำกว่าจุดสูงสุดนั้นราว 12% ความคาดหวังเชิงบวกนี้ยิ่งทวีความเข้มข้นเข้าไปอีก จากการจับตามองตัวเลข CPI และ *ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)* ในสัปดาห์นี้ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะมีอิทธิพลสูงต่อการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยของ *ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed)* ในวันที่ 17 กันยายน
จากมุมมองตลาดในวงกว้าง การเคลื่อนไหวของ *วาฬ* และ *ผู้เล่นรายใหญ่ระดับสถาบัน* มักถูกตีความว่าเป็น ‘ตัวชี้นำ’ แนวโน้มราคาในตลาดคริปโต หากการเข้าซื้อระดับมหาศาลนี้ยังคงดำเนินต่อไป ความเชื่อมั่นใน *อีเธอเรียม* อาจยิ่งเพิ่ม และดึงดูดกระแสเงินลงทุนเข้าสู่ตลาดได้มากขึ้นในช่วงเวลาที่ความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจยังคงอยู่
*ความคิดเห็น*: การแสดงพลังของนักลงทุนรายใหญ่นี้อาจไม่ใช่แค่จังหวะเก็งกำไร แต่ยังสะท้อนภาพการเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างระยะยาวของตลาดคริปโต ทั้งในด้านเศรษฐกิจมหภาค และแนวทางกำกับดูแลจากภาครัฐในสหรัฐฯ.
ความคิดเห็น 0