บิตคอยน์(BTC) มักจะแสดงแนวโน้ม *อ่อนตัว* ในช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงปรากฏการณ์ตามฤดูกาลเท่านั้น แต่ยังเกิดจากปัจจัยผสมผสานหลายด้าน โดยหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ได้รับความสนใจจากนักเทรดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คือแรงขายจากกลุ่มผู้ขุดคริปโต ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงฤดูร้อนอันร้อนระอุที่มักตามมาด้วยต้นทุนด้านพลังงานที่ถีบตัวสูงขึ้น
ข้อมูล *ออนเชน(On-Chain)* ระบุว่า กลุ่มผู้ขุดมักจะเพิ่มการขายบิตคอยน์ในตลาดช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะเดือนสิงหาคม ซึ่งส่งผลให้เกิดแรงกดดันด้านราคาทั่วทั้งตลาด ผู้ขุดเหล่านี้อาจสร้างรายได้เป็นคริปโต แต่ต้นทุนการดำเนินงาน เช่น ค่าพลังงาน ต้องจ่ายเป็นสกุลเงินที่จับต้องได้ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อค่าไฟในพื้นที่สำคัญอย่างเท็กซัส คาซัคสถาน และจีนพุ่งสูง บริษัทขุดจึงจำเป็นต้องปล่อยเหรียญเข้าสู่ตลาดเพื่ออยู่รอด จึงทำให้การไหลของบิตคอยน์เข้าสู่ตลาดซื้อขายพุ่งสูง ซึ่งเห็นได้จากข้อมูล *Miner-to-Exchange Flow* จากเครือข่ายวิเคราะห์อย่าง *คริปโตควอนต์(CryptoQuant)*
เมื่อสภาพคล่องในตลาดลดลงในช่วงฤดูร้อน พร้อมกับการลดบทบาทของนักลงทุนสถาบัน ปัจจัยดังกล่าวก็ยิ่งขยายแรงขายให้รุนแรงขึ้น แนวโน้มที่ราคาอ่อนตัวในเดือนสิงหาคมจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็น ‘รูปแบบการเคลื่อนไหวที่ต้องมีการวางกลยุทธ์รับมือ’ ซึ่งนักเทรดสายสั้นอาจใช้ช่วงนี้ในการป้องกันความเสี่ยงหรือปรับสถานะลงทุน ขณะเดียวกัน นักลงทุนระยะยาวกลับมองการร่วงลงของราคาในเดือนสิงหาคมว่าเป็น ‘โอกาสเข้าซื้อ’ เพื่อเตรียมตัวรับการฟื้นตัวในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
เมื่อเข้าสู่เดือนกันยายน ความระมัดระวังในหมู่นักลงทุนก็ปรากฏให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น โดยข้อมูลย้อนหลัง 12 ปีแสดงว่า *8 ใน 12 ปี* เดือนกันยายนมีผลตอบแทนเป็น *ลบ* สำหรับบิตคอยน์ แม้ในปีที่ตลาดเป็นขาขึ้นอย่าง 2017 และ 2021 ก็ไม่รอดพ้นจากแนวโน้มนี้ นอกจากนี้ ข้อมูลอีกจุดที่น่าจับตาคือ *กว่า 80%* ของกรณีพบว่า *จุดสูงสุดหรือต่ำสุดของราคาในเดือนกันยายนมักเกิดขึ้นใน 12 วันแรก* ซึ่งสะท้อนว่านักเทรดควรระวังความผันผวนในช่วงต้นเดือนเป็นพิเศษ
ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่าราคาบิตคอยน์อาจลดลงมาต่ำถึง *100,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 1.39 ล้านบาท)* หากเกิดการปรับฐานในระยะสั้น แต่ประวัติศาสตร์ตลาดก็ระบุว่าเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนมักจะเป็นช่วงเวลาที่ราคาแข็งแกร่งขึ้น ทำให้มุมมองเชิงบวกในระยะกลางและยาวยังคงมีพลัง ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนจำนวนมากจึงมองช่วงการอ่อนตัวในต้นฤดูใบไม้ร่วงว่าเป็น *จุดเข้าลงทุนสำหรับการเก็งกำไรรอบใหม่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง* หรือที่รู้จักกันว่า ‘*แรลลี่ฤดูใบไม้ร่วง*’
ความคิดเห็น 0