เครือข่ายเมนเทิล(MNT) กำลังเข้าสู่ช่วงใหม่ ด้วยการพัฒนาเป็น ‘เชนด้านสภาพคล่อง’ ที่เชื่อมโยงสินทรัพย์จริงที่ถูกแปลงเป็นโทเคนเข้าสู่ระบบการเงินของทั้งฝั่งรวมศูนย์(CeFi) และฝั่งไร้ศูนย์กลาง(DeFi) การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนให้เห็นโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ที่มีศักยภาพในการลบเส้นแบ่งระหว่างโลกการเงินเก่าและใหม่อย่างชัดเจน
เมนเทิลถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2021 ภายใต้โครงการบิตดาโอ(BitDAO) ในฐานะโซลูชันขยายขนาดของอีเธอเรียมชั้นที่สอง(Layer2) ที่พัฒนาโดยการริเริ่มขององค์กรแบบไร้ศูนย์กลางหรือ DAO โดยเป็นหนึ่งใน L2 รายแรกที่ดำเนินการโดยชุมชนอย่างแท้จริง ต่อมาในเดือนกรกฎาคม 2023 โครงการบิตดาโอและเมนเทิลได้รวมตัวกันอย่างเป็นทางการ ภายใต้แบรนด์เมนเทิลและใช้โทเคน MNT สำหรับระบบนิเวศใหม่
การอัปเกรดสู่ ‘เมนเทิล 2.0’ ในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการอัปเดตเวอร์ชัน แต่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของระบบนิเวศ ตามรายงานของเดลไฟ ดิจิทัล(Delphi Digital) บริษัทวิจัยด้านคริปโตระบุว่า มีผู้บริหารระดับสูงจากไบบิท(Bybit) เข้าร่วมเป็นที่ปรึกษา และมีการเปิดเผยแผนงานเชิงกลยุทธ์เพื่อผสาน CeFi และ DeFi เข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ
โมเดลที่เมนเทิล 2.0 วางเป้าหมายไว้คือ การผสานการดำเนินงานของ DAO เข้ากับความสามารถด้านสภาพคล่องและฐานผู้ใช้งานของตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแบบรวมศูนย์ แนวคิดนี้เน้นความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมแบบไร้ศูนย์กลาง ขณะเดียวกันก็ใช้จุดแข็งของ CeFi ด้านความสะดวกและประสิทธิภาพ นับเป็น ‘สัญญาณของการเปลี่ยนผ่านเชิงโครงสร้าง’ ที่อาจจุดประกายให้หลาย DAO เริ่มร่วมมือกับแพลตฟอร์มศูนย์กลางมากขึ้น
ความร่วมมือระหว่างเมนเทิลและไบบิทเริ่มต้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ใช้โทเคน MNT เป็นศูนย์กลาง ถัดมาในวันที่ 29 ทั้งสองฝ่ายยังได้เปิดเผยแผนโรดแมปล่าสุดสำหรับผู้ถือโทเคน MNT ที่เน้นฟีเจอร์ใหม่ เช่น ระบบเทรดลดสลิปเพจ ตัวเลือกในการชำระเงินที่หลากหลาย ตลอดจนโซลูชันด้านการสเตกและลดค่าธรรมเนียม
เบื้องหลังการผลักดันเมนเทิล 2.0 ยังมีแผนกลยุทธ์ที่มุ่งเชื่อม ‘เศรษฐกิจโลกแห่งความเป็นจริง’ เข้ากับคริปโต ผ่านการแปลงสินทรัพย์ที่จับต้องได้ให้เป็นดิจิทัล (Tokenization) นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังมองว่า โมเดลดังกล่าวจะสร้างภาพลักษณ์ DeFi ที่เข้าใกล้รากฐานของตลาดการเงินดั้งเดิมมากขึ้น และจะทำหน้าที่เป็น ‘ประตูสู่สถาบันการเงิน’ สำคัญในการดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่เข้าสู่ระบบนิเวศคริปโตในอนาคต
ความคิดเห็น 0