Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

สตาร์ทอัปสายคริปโตปั้นฮาร์ดแวร์ Web3 ดันสมาร์ตโฟน-เกมคอนโซลฝัง AI เขย่าตลาดโลก

สตาร์ทอัปสายคริปโตปั้นฮาร์ดแวร์ Web3 ดันสมาร์ตโฟน-เกมคอนโซลฝัง AI เขย่าตลาดโลก / Tokenpost

สตาร์ทอัปสายคริปโตเดินเกมใหม่ ปลุกชีพตลาดฮาร์ดแวร์ด้วยสมาร์ตโฟนและเกมคอนโซลแนว Web3 พร้อมผนึกศักยภาพปัญญาประดิษฐ์ในเครื่อง

กระแส Web3 กำลังขยายตัวเกินกว่าจะเป็นเพียงการทำแอปหรือการออกโทเคนตามกระแส ล่าสุดกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัปสายบล็อกเชนเริ่มหันมาบุกตลาดอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ขับเคลื่อนด้วยแนวคิด ‘เปลี่ยนโลกดิจิทัลของผู้บริโภค’ ผ่านสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์เล่นเกมที่ฝังเทคโนโลยี Web3 และ AI เข้าไว้ในตัวเครื่อง

เมื่อวันที่ 25 Gaia Labs ประกาศเตรียมเปิดตัว ‘สมาร์ตโฟน AI’ ที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับตลาดไทยและฮ่องกงโดยเฉพาะ จุดเด่นของมือถือรุ่นนี้คือการสามารถรันโมเดล AI ได้ ‘ภายในตัวเครื่อง’ โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งถือเป็นแนวทางใหม่ในการลดการพึ่งพาคลาวด์ สำหรับฟีเจอร์ด้าน Web3 ยังรวมถึงระบบพิสูจน์ตัวตนบนบล็อกเชน, โดเมน ‘กาอิอา’ ที่ติดตั้งมากับเครื่อง และเครื่องมือสำหรับปรับแต่ง AI ให้เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคน

อย่างไรก็ตาม Gaia Labs ไม่ใช่รายแรกที่ลงมาลุยสนามนี้ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โซลานาโมบาย บริษัทลูกของโซลานาแลบส์(Solana Labs) ได้เผยโฉมสมาร์ตโฟนรุ่นที่ 2 ในนาม ‘โซลานา ซีเคอร์(Solana Seeker)’ โดยเปิดให้จองล่วงหน้ามากถึง 150,000 เครื่อง และจัดจำหน่ายแล้วในกว่า 50 ประเทศ ส่วนรุ่นแรกอย่าง ‘ซากา(Saga)’ ที่วางขายในปี 2023 ก็ได้กระแสตอบรับดีเยี่ยมจากกระเป๋าเงินในตัว, ร้านแอป DApp จำเพาะ และแคมเปญแจกโทเคนมีมอย่าง บ๊องก์(BONK)

ถึงแม้ ‘สมาร์ตโฟน Web3’ จะไม่ได้ตั้งเป้าชนยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิลหรือซัมซุงโดยตรง แต่แนวคิดเบื้องหลังกลับชัดเจน เอ็มเมตต์ ฮอลลิเออร์(Emmett Hollyer) ผู้อำนวยการใหญ่ของโซลานาโมบาย ให้ความเห็นผ่านบล็อกว่า “เป้าหมายของเราไม่ใช่แย่งตลาดจากผู้ผลิตรายใหญ่ แต่คือการสร้างระบบนิเวศใหม่ที่ออกแบบมาสำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้สกุลเงินดิจิทัล”

การพัฒนาฮาร์ดแวร์ด้านบล็อกเชนไม่ได้จำกัดที่สตาร์ทอัปเพียงเท่านั้น บริษัทใหญ่ก็เคยร่วมวงด้วยเช่นกัน อาทิ HTC จากไต้หวัน ที่เคยเปิดตัว ‘เอ็กโซดัส 1’ สมาร์ตโฟนบล็อกเชนในปี 2018 โดยมาพร้อมกระเป๋าเก็บคริปโตในเครื่อง ‘ไซออน โวลต์’ และรองรับสินทรัพย์อย่าง บิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ต่อมาในปี 2022 แบรนด์หรูอย่างเวอร์ทู(Vertu) ก็ตามมาด้วยรุ่น ‘เมตาเวอร์ทู(Metavertu)’ ที่รองรับทั้งแพลตฟอร์ม Web2, Web3, NFT และฟังก์ชันกระเป๋าเงินในตัว

แม้ยอดขายจะไม่ใช่ตัวชี้วัดหลักของความสำเร็จ แต่แนวโน้มการใช้เทคโนโลยีแบบกระจายศูนย์เพื่อท้าทายการผูกขาด AI ของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่กำลังคืบคลานเข้าใกล้ความเป็นจริง ตามความเห็นของชาชังก์ สริพาดา(Shashank Sripada) ผู้ร่วมก่อตั้ง Gaia Labs ที่กล่าวว่า “ความสำคัญอยู่ที่การพิสูจน์ว่าเทคโนโลยีกระจายศูนย์สามารถเป็นทางเลือกใหม่ที่แท้จริงต่อโครงสร้าง AI แบบรวมศูนย์”

นอกจากมือถือแล้ว วงการเกมก็เริ่มเห็นคลื่นลูกใหม่ของอุปกรณ์ Web3 เช่นกัน มิสเทนแล็บส์(Mysten Labs) ผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาเครือข่ายสูย(SUI) เปิดตัวเครื่องเกมพกพารุ่นแรกภายใต้ชื่อ ‘สูยเพลย์ 0X1’ ในช่วงปลายปี 2024 ร่วมพัฒนากับ Playtron และโดดเด่นด้วยความสามารถในการเล่นเกมพีซีประสิทธิภาพสูง พร้อมทั้งระบบล็อกอินแบบ zkLogin และจัดการคริปโตบนบล็อกเชนอย่างง่ายดาย

*ความคิดเห็น*: แนวคิดในการพัฒนา ‘ฮาร์ดแวร์ Web3’ ที่จับต้องได้กำลังก้าวข้ามจากแนวคิดสู่ผลิตภัณฑ์จริง การเชื่อมโยงตัวตนดิจิทัลและทรัพย์สินของผู้ใช้ผ่านอุปกรณ์เฉพาะทาง อาจเป็นก้าวสำคัญในการผลักดัน Web3 ให้พ้นจากแอปและหน้าจอ ไปสู่โลกแห่งความจริงอย่างเต็มรูปแบบ

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความหลัก

Fed เตรียมประชุมนโยบายใหญ่ 21 ต.ค. ชี้ทิศทางโทเคไนซ์สินทรัพย์จริงและอนาคตระบบการเงินโลก

โคอินเบส(Coinbase) เดินหน้าปฏิวัติ ด้วย AI เขียนโค้ดกว่า 40% คาดแตะ 50% ภายในเดือนหน้า

คอยน์เบสเปิดตัว ‘ดัชนีไฮบริด’ รวมหุ้น MAG 7 และ ETF คริปโต พร้อมลุยตลาดอนุพันธ์ 22 ก.ย.นี้

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1