ชาร์ปลิงก์(SharpLink) บริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลที่เน้นการลงทุนในอีเธอเรียม(ETH) ได้สร้างความสนใจแก่ตลาดคริปโตอีกครั้ง หลังจากเข้าซื้ออีเธอเรียมเพิ่มเติมอีก 39,008 เหรียญ ส่งผลให้ปริมาณการถือครองรวมเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 266,000 ETH คิดเป็นมูลค่าตามราคาตลาดราว 3.2 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 2.3 พันล้านดอลลาร์ ชาร์ปลิงก์จึงกลายเป็นบริษัทที่ถือครองอีเธอเรียมมากที่สุดเป็นอันดับสอง รองจากบิตมายน์(BitMine)
โจเซฟ ชาลอม(Joseph Chalom) ซีอีโอร่วมของชาร์ปลิงก์ เปิดเผยว่า เงินทุนที่ใช้ในกระบวนการเข้าซื้อสินทรัพย์ครั้งนี้ มาจากกลุ่มนักลงทุนที่หลากหลาย ทั้งรายบุคคลและสถาบัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงกระแสเงินทุนจากตลาดการเงินแบบดั้งเดิมที่เริ่มไหลเข้าสู่อินฟราสตรักเจอร์ของอีเธอเรียมมากขึ้น
ขณะเดียวกัน บิตมายน์ซึ่งเป็นผู้ถือครองอีเธอเรียมอันดับหนึ่ง ยังคงเดินหน้าซื้อสะสมอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เพิ่มการถือครองอีกประมาณ 201,000 ETH หรือคิดเป็นมูลค่าราว 925 พันล้านวอน (ประมาณ 665 ล้านดอลลาร์) ส่งผลให้ปัจจุบัน บิตมายน์ถือครองอีเธอเรียมมูลค่ารวมกว่า 8.2 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 5.85 พันล้านดอลลาร์
กระแสการเข้าซื้อในระดับมหาศาลนี้ ได้จุดกระแสความหวังว่า *ราคาของอีเธอเรียมอาจปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ* โดยโจ ลูบิน(Joe Lubin) ผู้บริหารของชาร์ปลิงก์ เคยให้ความเห็นในเชิงบวกว่า มูลค่าของอีเธอเรียมในอนาคตอาจ *เติบโตกว่า 100 เท่าเมื่อเทียบกับปัจจุบัน* เขายังระบุด้วยว่า แม้ชาร์ปลิงก์จะมีเป้าหมายที่คล้ายกับบิตมายน์ แต่ทั้งสองบริษัทไม่มีความขัดแย้งกันในเชิงยุทธศาสตร์
ความเคลื่อนไหวของทั้งชาร์ปลิงก์และบิตมายน์สะท้อนว่า อีเธอเรียมยังคงถูกมองว่าเป็นทรัพย์สินที่น่าดึงดูดสำหรับกลุ่มนักลงทุนสถาบัน ความต้องการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในระบบนิเวศของอีเธอเรียม ไม่ว่าจะเป็น DeFi, NFT หรือการโทเคนสินทรัพย์จากโลกจริง (RWA) กำลังแปลงสภาพเป็นการเข้าซื้อสินทรัพย์อย่างจริงจังในระดับองค์กร *ความคิดเห็น: สัญญาณนี้อาจบ่งชี้ว่าอีเธอเรียมกำลังเข้าสู่รอบขาขึ้นอีกครั้ง*
ความคิดเห็น 0