SHIB, XRP, ADA เผชิญจุดเปลี่ยนสำคัญ นักลงทุนจับตาทิศทางตลาดคริปโตสัปดาห์นี้

เมื่อเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของตลาดคริปโต ความสนใจของนักลงทุนจึงจับจ้องไปที่สกุลเงินดิจิทัลสามรายการ ได้แก่ ชิบะอินุ(SHIB), ริปเปิล(XRP) และคาร์ดาโน(ADA) ซึ่งกำลังเผชิญกับ ‘จุดเปลี่ยนสำคัญ’ ที่อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ครั้งใหญ่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ชิบะอินุ(SHIB) ยังคงติดอยู่ในรูปแบบ ‘สามเหลี่ยมสมมาตร’ ที่ไม่สามารถเบรกผ่านต้านด้านบนได้สำเร็จ แม้จะพยายามรีบาวด์หลายครั้งแต่ราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่ที่ราว 0.0000123 ดอลลาร์ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม ความอ่อนแรงของแรงซื้อส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนเชิงลบ โดยแนวต้านสำคัญอยู่ที่ช่วง 0.0000130~0.0000132 ดอลลาร์ และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันก็ยังขวางราคาอยู่ที่ระดับ 0.0000139 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 0.0000120 ดอลลาร์ หากหลุดระดับนี้ มีความเสี่ยงจะร่วงลงไปที่ 0.0000110 ดอลลาร์ หรือแม้กระทั่ง 0.0000100 ดอลลาร์

ด้านริปเปิล(XRP) ขณะนี้ก็กำลังต่อสู้เพื่อรักษาแนวรับสุดท้าย พร้อมกับราคาอยู่ที่ 2.83 ดอลลาร์ โดยมีเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบชี้วัดเฉลี่ย 100 วัน (EMA) ตั้งฐานอยู่ที่ 2.77 ดอลลาร์ การที่แนวรับรูปแบบสามเหลี่ยมแบบสมมาตรถูกทำลายสะท้อนว่าความกดดันขาล่างกำลังเพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณซื้อขายที่ชะลอตัวบ่งชี้ว่าแรงซื้อยังไม่แข็งแกร่ง และ RSI ที่ระดับ 44 ก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นกลางแต่เอนเอียงไปทางลบ หากไม่สามารถฝ่ากลับขึ้นไปเหนือระดับ 3.00 ดอลลาร์ได้ อาจถอยลงไปยังระดับสำคัญที่ 2.50 ดอลลาร์ และแนวรับทางจิตวิทยาที่ 2.00 ดอลลาร์

ในขณะที่คาร์ดาโน(ADA) เองก็เผชิญภาวะชะงักงัน โดยราคายังคงยืนพื้นอยู่ที่ระดับ 0.80 ดอลลาร์ ซึ่งสอดคล้องกับเส้น EMA 100 วัน ถือเป็นจุดตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ หากสามารถรักษาระดับนี้ไว้ได้ แนวต้านต่อไปคือ 0.90 ดอลลาร์ และ 1.00 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตามปริมาณการซื้อขายที่ลดลงยังเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัว และการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกจำเป็นต้องมาจากการกลับมาของ *ความเชื่อมั่นในตลาด*

ท่ามกลางความไม่แน่นอนนี้ บิตคอยน์(BTC) กลายเป็นจุดรวมสายตา นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกยืนข้างสนาม รอดูสัญญาณชัดเจนจากราคาบิตคอยน์ ที่จะบ่งชี้ ‘ทิศทางของตลาด’ โดยรวม อัลต์คอยน์ทั้งสามจึงอยู่ในจังหวะวิกฤตว่า *จะสามารถป้องกันแนวรับสุดท้ายได้หรือไม่* หรือจะเข้าสู่ขาลงเต็มรูปแบบในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งปัจจุบันถือเป็น *จุดเปลี่ยนที่สำคัญ* สำหรับผู้ถือครองและนักลงทุนทุกคน