ราคาของอีเธอเรียม(ETH) ยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับแนวต้านสำคัญที่ 4,500 ดอลลาร์ ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของ ‘วาฬ’ ซึ่งกำลังกลายเป็นตัวแปรหลักในการกำหนดทิศทางของตลาดในช่วงนี้ โดยเฉพาะเมื่อ ‘วาฬขนาดใหญ่’ ลดจังหวะการสะสมลง ส่วน ‘วาฬขนาดกลาง’ กลับเข้ามาซื้ออีกครั้ง ทำให้เกิดสมดุลที่ละเอียดอ่อนในตลาด
จากข้อมูลบนเชน พบว่า วาฬที่ถือครองมากกว่า 10,000 ETH (กลุ่มเมกะวาฬ) ซึ่งเคยเป็นผู้ผลักดันให้ราคาอีเธอเรียมทะยานขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม โดยสะสมไปกว่า 2 ล้าน ETH ตอนนั้น ปัจจุบันกลับลดการสะสมลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่วาฬกลุ่มที่ถือประมาณ 1,000–10,000 ETH หันกลับมาเข้าซื้ออีกครั้งในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยมีการซื้อสะสมรวมราว 400,000 ETH ซึ่งสะท้อนว่าทิศทางการขายที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมน่าจะถึงจุดสิ้นสุด และแนวโน้มกำลังกลับเป็นขาขึ้น
สถานการณ์ปัจจุบันจึงเห็นอีเธอเรียมเคลื่อนไหวอยู่ใต้แนวต้าน 4,500 ดอลลาร์ โดยมีแรงซื้อจากวาฬขนาดกลางช่วยพยุงไว้ ท่ามกลางกระแส *ความคิดเห็น* ที่ว่าหากต้องการ ‘โมเมนตัมขาขึ้น’ ที่แข็งแกร่ง วาฬขนาดใหญ่จำเป็นต้องกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง
แคส แอ็บบี(Cas Abbé) นักวิเคราะห์คริปโตระบุว่า “ตอนนี้อีเธอเรียมยังทรงตัวอยู่ได้ เพราะวาฬขนาดกลางกำลังซื้อเข้ามา แม้ในขณะที่เมกะวาฬยังคงเงียบอยู่” พร้อมทั้งเสริมว่า หากความสมดุลในฝั่งอุปสงค์และอุปทานนี้ถูกทำลาย แนวโน้มราคาก็จะถูกกำหนดอย่างชัดเจน
ในรายงานล่าสุด แอ็บบียังเปิดเผยความเคลื่อนไหวของวาฬระดับใหญ่ โดยหนึ่งในนั้นคือ บิทไมน์ ดิจิทัล(BitMine Digital) ที่เพิ่งซื้ออีเธอเรียมมากถึง 14,000 ETH ภายในสัปดาห์เดียว มูลค่าประมาณ 62.4 ล้านดอลลาร์ หรือราว 866 ล้านบาท ขณะเดียวกัน มีการค้นพบวอลเล็ตใหม่ที่เปิดผ่านแพลตฟอร์มของ ฟัลคอนเอ็กซ์(FalconX) รวม 3 บัญชี ได้เข้าซื้ออีเธอเรียมมากถึง 65,662 ETH คิดเป็นเงินลงทุนถึง 287 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3,989 ล้านบาท ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่ยังเข้มข้นในตลาดสปอต แม้อัตราการเงินไหลเข้าสู่ ETF ของอีเธอเรียมจะลดลงก็ตาม *ความคิดเห็น*: นักลงทุนรายใหญ่ยังคงเชื่อมั่นในสินทรัพย์นี้ผ่านการซื้อโดยตรง
อย่างไรก็ตาม การทะลุระดับแนวต้านสำคัญยังคงไม่เกิดขึ้น เรนาท์ สไนเดอร์(Lennaert Snyder) นักวิเคราะห์อีกคนกล่าวว่า “อีเธอเรียมถูกปฏิเสธที่ระดับ 4,500 ดอลลาร์อีกครั้ง” และแนะนำว่าการเข้าซื้อใกล้กับแนวรับสำคัญที่ระดับ 4,274 ดอลลาร์ หรือ 4,213 ดอลลาร์ อาจเป็นจุดคุ้มกับความเสี่ยงมากกว่า โดยหากแนวรับเหล่านี้ไม่สามารถรักษาไว้ได้ ราคามีโอกาสจะตกลงไปที่ 4,080 ดอลลาร์ หรือในช่วง 3,900–3,600 ดอลลาร์ได้เช่นกัน
สรุปภาพรวมตลาดอีเธอเรียมขณะนี้ อยู่ในสถานะของ ‘แรงดึงรั้ง’ ระหว่างกลุ่มวาฬขนาดกลางและขนาดใหญ่ ซึ่งถ้าวาฬขนาดใหญ่หวนกลับมาในช่วงสั้น ๆ นี้ ก็อาจช่วยพลิกตลาดกลับมาเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง และการเคลื่อนไหวของเงินทุนจากกลุ่มวาฬในอีกไม่กี่วันข้างหน้า กำลังกลายเป็น ‘กุญแจ’ สู่ทิศทางราคาต่อไปของอีเธอเรียม
ความคิดเห็น 0