บิตคอยน์(BTC) อาจร่วงลงสู่ระดับ 1 หมื่นดอลลาร์ (ประมาณ 1.39 ล้านบาท) อีกครั้ง ตามคำเตือนล่าสุดของไมค์ แมคโกลน(Mike McGlone) นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสจาก Bloomberg ที่มองว่าตลาดคริปโตในปัจจุบันกำลังเข้าสู่ภาวะ ‘กลับสู่ความปกติ’ หลังจากเกิดการขยายตัวอย่างเกินจริง
เมื่อวันที่ 24 แมคโกลนโพสต์ผ่านบัญชีโซเชียลมีเดียของเขาว่ามีสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 20 ล้านเหรียญกำลังไหลเวียนอยู่ทั่วโลก ซึ่งเป็นตัวสะท้อนถึง *การเติบโตของตลาดที่เกินตัว* และมีแนวโน้มจะเข้าสู่รอบการปรับตัวลง เขาได้นำเสนอแผนภูมิเปรียบเทียบราคาของบิตคอยน์, ทองคำ และดัชนี S&P500 โดยชี้ว่า บิตคอยน์กำลังอยู่ในภาวะ *เก็งกำไรมากเกินไปเมื่อเทียบกับทองคำและตลาดหุ้น*
แมคโกลนระบุว่าราคา *บิตคอยน์ระดับปัจจุบันที่ราว 110,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.29 ล้านบาท)* เป็นระดับที่ ‘ไม่ปกติ’ และการร่วงลงสู่ 1 หมื่นดอลลาร์อาจเป็นกระบวนการฟื้นสมดุลตามกลไกปกติของตลาด เขาย้ำว่าบิตคอยน์เป็นเหมือน *ตัวชี้นำของสินทรัพย์เสี่ยง* ที่เคลื่อนไหวเร็วเกินไป และยังคาดการณ์เพิ่มเติมว่า *อัตราส่วน BTC/GOLD อาจลดลงจาก 35 เหลือ 25* ซึ่งหมายความว่าค่าของบิตคอยน์เมื่อเทียบกับทองคำอาจลดลง ในเชิงปฏิบัติ นั่นก็คือจะสามารถใช้บิตคอยน์แลกทองได้น้อยลง
อย่างไรก็ตาม ความเห็นของแมคโกลนขัดแย้งกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนบางราย เช่น ทิม เดรเปอร์(Tim Draper) นักลงทุนชื่อดังที่เคยประเมินว่า *ราคาบิตคอยน์อาจทะลุ 2.5 แสนดอลลาร์ (ประมาณ 34.75 ล้านบาท) ภายในสิ้นปี 2025* โดยเขาชี้ว่าปัจจุบันเกิดปรากฏการณ์ ‘FOMO ของสถาบัน’ อย่างชัดเจน ทั้งจากธนาคารและบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เริ่มจัดสรรบิตคอยน์เป็นส่วนหนึ่งในพอร์ต เขาถึงขั้นระบุว่า "การไม่ถือบิตคอยน์ในตอนนี้คือความไร้ความรับผิดชอบ"
แม้ทิศทางของราคาบิตคอยน์ในอนาคตยังไม่ชัดเจน แต่ *บทวิเคราะห์ของแมคโกลนได้สะท้อนสัญญาณเตือนสำหรับนักลงทุน* ถึงความเสี่ยงจากการปรับฐานที่อาจเกิดขึ้น การวิเคราะห์ที่เริ่มจากบริบทของวิกฤตการเงินช่วงปี 2008 อันเป็นช่วงที่บิตคอยน์ถือกำเนิดขึ้น กำลังเตือนว่า *ตลาดคริปโตอาจเผชิญการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่* และกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้เล่นในตลาดต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0