สตาร์ทอัพฟินเทคระดับโลก สไตรป์(Stripe) กำลังเป็นประเด็นร้อนในวงการคริปโตหลังเปิดตัวบล็อกเชนเลเยอร์1 ของตัวเองในชื่อ ‘เทมโป(Tempo)’ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์จากชุมชนที่ตั้งคำถามถึงความจำเป็นของการสร้างเครือข่ายใหม่ แทนที่จะใช้โครงสร้างพื้นฐานเดิมอย่างอีเธอเรียม(ETH), โซลานา(SOL) หรือโพลิกอน(MATIC)
เมื่อวันที่ 2 ซีอีโอของสไตรป์ แพทริก คอลลิสัน(Patrick Collison) ได้ประกาศเปิดตัวเทมโปผ่านโพสต์บน X (เดิมคือทวิตเตอร์) พร้อมให้เหตุผลว่า *"บล็อกเชนที่มีอยู่นั้นยังไม่เหมาะสมต่อการรองรับความต้องการด้านการชำระเงินโดยใช้สเตเบิลคอยน์และคริปโตโดยทั่วไป"* คำกล่าวนี้สร้างความไม่พอใจในหมู่ผู้เชี่ยวชาญและนักพัฒนาในวงการ ที่มองว่า ‘สิ่งที่เทมโปทำได้’ นั้นสามารถสร้างบนโครงข่ายเดิมได้อยู่แล้ว
โจ เพทริช(Joe Petrich) หัวหน้าวิศวกรของแพลตฟอร์มนิเอ็นเอฟที คอร์ทยาร์ด(Courtyard) ระบุว่า *“ไม่มีใครต้องการอีกหนึ่งบล็อกเชนอีกต่อไป”* พร้อมวิจารณ์ว่าอุปสรรคทางเทคนิคที่สไตรป์อ้างถึงนั้น *ได้รับการแก้ไขไปนานแล้ว* บนเครือข่ายที่มีอยู่ การเปิดตัวของเทมโปจึงอาจไม่มีคุณค่าจริงตามที่อ้าง
แพทริกยังชี้ว่า ความเร็วในการประมวลผลธุรกรรม (TPS) ของโซลานานั้นไม่ตอบโจทย์สำหรับธุรกิจของสไตรป์ที่อาจต้องรองรับธุรกรรมระดับมากกว่า 10,000 รายการต่อวินาที อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกลับมองว่า *เครือข่ายอย่างโซลานาสามารถประมวลผล 6,000–7,000 TPS อยู่แล้วในสภาพแวดล้อมจริง* และการใช้งานเลเยอร์2 ยังสามารถขยายขีดจำกัดได้มากขึ้นอีก โดยเลเยอร์1 เน้นความปลอดภัยและการกระจายศูนย์ ขณะที่เลเยอร์2 สร้างขึ้นเพื่อขยายขีดความสามารถและความเร็ว
**ความคิดเห็น:** การตัดสินใจสร้างเทมโป จึงถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์เพื่อควบคุมและบริหาร ‘ระบบนิเวศการชำระเงิน’ ภายในของสไตรป์มากกว่าความต้องการด้านเทคนิคที่เลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้การมีบล็อกเชนของตนเองจะช่วยเพิ่มอิสระในการออกแบบระบบ แต่ในตลาดที่บล็อกเชนเกิดใหม่จำนวนมากไม่มีผลตอบรับดีนัก การเปิดตัวเทมโปจะประสบความสำเร็จหรือไม่ยังเป็นคำถามที่น่าติดตาม
ในขณะที่ความเป็นเจ้าของโครงข่ายอาจให้ ‘อำนาจควบคุม’ ที่มากขึ้น *แต่ในยุคที่ผู้ใช้งานให้ค่าน้ำหนักกับความเข้ากันได้ของระบบและจำนวนผู้ใช้งานที่ใช้งานอยู่จริง* กลยุทธ์ใหม่นี้ของสไตรป์จะเดินออกจากกระแสหลักหรือกลายเป็นแรงผลักดันใหม่ ยังเร็วเกินไปที่จะสรุป.
ความคิดเห็น 0