ดราม่าระอุ! วงการคริปโตปะทะเดือด หลัง Stripe เสนอตัวออกเหรียญ USDH บน Hyperliquid

เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในอุตสาหกรรมคริปโตเกี่ยวกับแผนการออกเหรียญสเตเบิลคอยน์ USDH โดยสตาร์ทอัพฟินเทครายใหญ่ในสหรัฐฯ อย่าง สไตรป์(Stripe) ซึ่งโครงการนี้มีเป้าหมายในการสร้างเหรียญบนระบบนิเวศของไฮเปอร์ลิควิด(Hyperliquid) พร้อมทั้งมีบริษัทคริปโตหลายแห่ง เช่น มูนเพย์(MoonPay), อาโกรา(Agora) และเรน(Rain) เข้าร่วมเสนอแนวทางแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งผู้ออกเหรียญ USDH อย่างเป็นทางการ

จุดเริ่มต้นของข้อถกเถียงเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากไฮเปอร์ลิควิดประกาศผ่าน Discord ว่ากำลังเตรียมเปิดตัวเหรียญ USDH โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เหรียญดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทางกำกับดูแล และสามารถขยายการใช้งานในระบบนิเวศของตนได้อย่างยั่งยืน ข้อเสนอแรกที่ถูกนำเสนอเกิดจากบริษัท เนทีฟ มาร์เก็ต(Native Markets) โดยเสนอให้ใช้ ‘บริดจ์(Bridge)’ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของสไตรป์ ในการเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการออก USDH

เนทีฟ มาร์เก็ตระบุว่าจะบริจาคผลกำไรบางส่วนเข้าสู่กองทุน ‘อัสซิสแทนซ์ ฟันด์’ ของไฮเปอร์ลิควิด และดำเนินการออกเหรียญด้วยตัวเองเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำกับดูแล ซึ่งสะท้อนความจริงจังของบริษัท อย่างไรก็ตาม นิค แวน เอ็ก(Nick Van Eck) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งของอาโกรา ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างหนัก โดยชี้ว่าการมอบอำนาจในการออกเหรียญหลักของระบบให้กับบริษัทแนวดิ่งเช่นสไตรป์เป็นสิ่งที่ ‘เสี่ยงอันตรายอย่างยิ่ง’

แวน เอ็กกล่าวต่อว่า การให้สไตรป์ทำหน้าที่เป็นผู้ออกเหรียญผ่านบริดจ์ ถือเป็นการตัดสินใจที่อาจนำไปสู่ ‘ผลประโยชน์ทับซ้อน’ อย่างชัดเจน โดยยกตัวอย่างว่า สไตรป์กำลังพัฒนาบล็อกเชนของตัวเองชื่อว่า ‘เทมโป(Tempo)’ ซึ่งอาจมีเจตนาในการดึงผู้ใช้งานในตลาดการเงินและตลาดอนุพันธ์เข้าสู่แพลตฟอร์มของตนในอนาคต

ข้อกังวลดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก มูนเพย์ โดยประธานบริษัท คีธ กรอสแมน(Keyth Grossman) ได้โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X ว่ามูนเพย์จะเข้าร่วมสนับสนุนข้อเสนอของอาโกรา พร้อมเสริมว่าจะจัดหาโครงสร้างพื้นฐานด้านชำระเงินที่เป็นไปตามข้อกำกับดูแลให้กับ USDH เขากล่าวว่า “ความน่าเชื่อถือ, ความสามารถในการขยาย และความสอดคล้องกับระบบนิเวศคือคุณลักษณะสำคัญของ USDH และกลุ่มพันธมิตรปัจจุบันสามารถทำให้สิ่งนี้กลายเป็นจริงได้” พร้อมประกาศโจมตีแผนของสไตรป์ว่าเป็น “วาระทางการเมืองที่หลอกลวง”

ด้าน ร็อบ แฮดดิก(Rob Hadick) จากบริษัทลงทุนด้านคริปโตชื่อดัง ดรากอนฟลาย(Dragonfly.xyz) ก็เข้าร่วมหนุนข้อเสนอของอาโกราและมูนเพย์ โดยระบุว่า “เมื่อมูนเพย์เข้าร่วม โครงสร้างของข้อเสนอนี้จึงกลายเป็น ‘ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด’ ในการออกเหรียญ USDH”

การแย่งชิงบทบาทผู้ออก USDH ในครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การเลือกเทคโนโลยี แต่ยังสะท้อนถึงการแข่งขันเพื่ออำนาจนำในโครงสร้างพื้นฐานของโลก Web3 โดยแต่ละฝ่ายต่างยืนยันว่าแนวทางของตนจะช่วยลดความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ พร้อมขับเคลื่อนระบบนิเวศไฮเปอร์ลิควิดในระยะยาว

ทั้งนี้ ในขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์อยู่ระหว่างการหาเสียงเพื่อชิงตำแหน่งอีกครั้ง การพูดคุยในสหรัฐฯ เกี่ยวกับทิศทางของกฎหมายควบคุมสเตเบิลคอยน์ก็มีแนวโน้มจะชัดเจนมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อการตัดสินใจในโครงการ USDH ได้เช่นกัน