ทอส(Toss) เตรียมบุกตลาดต่างประเทศครั้งแรกในปีนี้ ด้วยการเปิดตัวแอปพลิเคชันแบบ ‘ซูเปอร์แอป’ ในออสเตรเลีย พร้อมประเดิมการให้บริการโอนเงินระหว่างบุคคลและฟีเจอร์ทางการเงินอื่นๆ ทั้งยังเตรียมออกสเตเบิลคอยน์ที่ผูกกับเงินวอน หากได้รับไฟเขียวจากหน่วยงานกำกับดูแลภายในประเทศ ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงจุดยืนที่ชัดเจนของฟินเทคยูนิคอร์นจากเกาหลีใต้ ที่ต้องการเติบโตในเวทีระดับโลก ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมฟินเทค
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) Reuters รายงานว่า รี ซึงกอน ซีอีโอของทอส ให้สัมภาษณ์ว่า “เราแข่งขันโดยตรงกับระบบการเงินดั้งเดิมในเกาหลีใต้และประสบความสำเร็จ” โดยเขาเชื่อว่ารูปแบบซูเปอร์แอปของทอสจะสามารถนำไปใช้ในประเทศอื่นได้ โดยเฉพาะประเทศที่ผู้บริโภคใช้งานหลายบัญชีธนาคารหรือหลายแอปในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ ซีอีโอรายนี้ยังเผยแผนการขยายบริการไปยังประเทศอื่นๆ ภายหลังจากการเปิดตัวในออสเตรเลียภายในปีนี้
ทอสเปิดตัวในปี 2015 และมีผู้ใช้งานภายในประเทศมากกว่า 30 ล้านราย การรุกเข้าสู่ออสเตรเลียนับเป็นก้าวแรกของการขยายธุรกิจต่างประเทศ และบริษัทวางแผนจะใช้ข้อได้เปรียบของระบบการเงินแบบเปิดอย่าง ‘Open Banking’ และโครงสร้างที่กระจายตัวของระบบธนาคารในออสเตรเลียให้เกิดประโยชน์ ปัจจุบันทอสได้จดทะเบียนนิติบุคคลในออสเตรเลียแล้ว และตั้งเป้าเปิดให้บริการภายในสิ้นปีนี้ โดยมีโฟกัสหลักอยู่ที่บริการโอนเงินระหว่างบุคคล(P2P) ซึ่งเป็นหนึ่งในฟีเจอร์เด่นของแอป
ออสเตรเลียถือเป็นตลาดที่เอื้อให้กับบริษัทฟินเทค โดยระบบ ‘สิทธิ์ข้อมูลผู้บริโภค’ (Consumer Data Right: CDR) บังคับให้ธนาคารต้องแชร์ข้อมูลกับบุคคลที่สามที่ได้รับอนุญาต ซึ่งช่วยสนับสนุนการให้บริการบัญชีรวมศูนย์ของทอส นอกจากนี้ยังมีระบบ ‘แพลตฟอร์มการชำระเงินใหม่’ (New Payments Platform: NPP) ที่สนับสนุนการโอนเงินแบบเรียลไทม์และฟีเจอร์เรียกเก็บเงิน ซึ่งทอสสามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการได้ รายงานจาก ABC ระบุว่าคนในออสเตรเลียโดยเฉลี่ยมีบัญชีธนาคาร 2.4 บัญชีต่อคน แสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ที่สูงต่อบริการการเงินแบบรวมศูนย์
ควบคู่กับการขยายตลาดต่างประเทศ ทอสยังได้เผยแผนการในการออกสเตเบิลคอยน์ที่ผูกกับเงินวอน โดยอยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานกำกับดูแล รี ซึงกอนเผยว่า “หากได้รับอนุญาต เราจะสร้างและแจกจ่ายสเตเบิลคอยน์อย่างแน่นอน” สอดคล้องกับนโยบายที่สำนักงานคณะกรรมการบริการการเงินของเกาหลีใต้ประกาศไว้เมื่อเดือนสิงหาคมว่า จะจัดทำกรอบกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์ที่อิงกับเงินวอนให้แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมปีนี้
ความสนใจต่อสเตเบิลคอยน์ในประเทศยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ใช่แค่ทอสเท่านั้นที่เตรียมออกเหรียญ แต่กลุ่มบริษัทในเครือคา카오ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านการเงินก็กำลังซุ่มพัฒนาเช่นเดียวกัน ขณะเดียวกันธนาคารพาณิชย์รายใหญ่อย่างธนาคารกสิกรเกาหลี(KB) และธนาคารไอแบงก์(IBK) ก็ได้ดำเนินการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่เกี่ยวข้องแล้วเช่นกัน ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการในระดับสถาบันที่สูงขึ้นสำหรับการถือครองและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลประเภทนี้
กระแสดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทางนโยบายของประธานาธิบดีอี แจมยอง ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง เขาเคยให้คำมั่นระหว่างการหาเสียงว่าจะผลักดันนโยบาย ‘โปรคริปโต’ และสนับสนุนการพัฒนาโทเคนที่อิงกับเงินวอน การลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์และการส่งเสริมนวัตกรรมทางการเงินผ่านสเตเบิลคอยน์จึงอาจกลายเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของฟินเทคสัญชาติเกาหลีในอนาคต โดยเฉพาะทอสที่กำลังเดินหน้าในระดับโลกอย่างเต็มตัว
ความคิดเห็น 0