การขายบิตคอยน์(BTC)จำนวนมากอย่างรวดเร็วจากฝั่งนักขุดในช่วงนี้ มีเบื้องหลังสำคัญอยู่สองประการ แม้ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจถูกตีความว่าเป็น ‘สัญญาณขาลงระยะสั้น’ แต่วงการกลับมองว่า สิ่งนี้อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับตัวขึ้นในระยะกลางถึงยาว
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ชาร์ลส์ เอ็ดเวิร์ดส์(Charles Edwards) ผู้ก่อตั้งบริษัทลงทุนด้านคริปโต เคพรีออล อินเวสต์เมนต์ ชี้ว่า แม้นักขุดบิตคอยน์จะอยู่ในช่วงทำกำไร พวกเขาก็ยังเลือกขายบิตคอยน์ออกไปจำนวนมาก เขาอธิบายว่ามีสองเหตุผลหลัก หนึ่งคือ การต้องการ ‘เงินสด’ เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายซึ่งเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน และสองคือ ความกังวลว่าราคาจะร่วงลงในอนาคต อย่างไรก็ตาม เอ็ดเวิร์ดส์ให้น้ำหนักมากกว่ากับ ‘การขายเพื่อทำกำไร’ ซึ่งสะท้อน ‘มุมมองขาลงล่วงหน้า’
อย่างไรก็ดี เอ็ดเวิร์ดส์ยังตั้งข้อสังเกตว่า การเทขายของนักขุดไม่ใช่ ‘ข่าวลบ’ เสมอไป เพราะ ถ้าดูจากสถิติในอดีต ทุกครั้งที่นักขุดขายเหรียญล็อตใหญ่ จะตามมาด้วย ‘การฟื้นตัวของราคา’ ภายในหนึ่งเดือน เหตุผลก็คือ บิตคอยน์เหล่านี้มักจะถูกดูดซับโดยนักลงทุนสถาบันหรือบริษัทขนาดใหญ่ ทำให้แรงขายมีจำกัด แม้จะดูหนักหน่วงในตอนแรกก็ตาม
นอกจากนี้ ขณะนี้ ‘ค่าแฮชเรต’ และ ‘ความยากในการขุด’ ของเครือข่ายบิตคอยน์ยังคงทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึง ‘ความแข็งแกร่งทางเทคนิคของระบบขุด’ ซึ่งช่วยบรรเทาความกังวลว่า การขายจำนวนมากในระยะสั้นจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของเครือข่ายหรือความสามารถในการทำกำไรโดยรวม
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ คือแผนภูมิที่ เอ็ดเวิร์ดส์ เปิดเผย พบว่า ทุกครั้งที่ ‘Netflow’ หรือ ‘ปริมาณสุทธิของเหรียญที่ออกจากกระเป๋านักขุด’ พลิกมาอยู่ในแดนลบ ราคาบิตคอยน์ก็มักพุ่งขึ้นตามมาด้วย ซึ่งอาจชี้ว่า การขายครั้งนี้ก็อาจเป็น ‘สัญญาณขาขึ้นแฝง’ อีกครั้งหนึ่ง
ปัจจุบัน ราคาบิตคอยน์(BTC) อยู่ที่ประมาณ 112,931 ดอลลาร์ หรือราว 1.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยราว 1% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
เมื่อพิจารณาจากข้อมูลทั้งหมด การเทขายรอบนี้อาจตีความได้ว่าเป็น ‘กระบวนการปล่อยแรงขาย’ เพื่อเตรียมตัวสู่ช่วงตลาดขาขึ้นครั้งต่อไปมากกว่าจะเป็นสัญญาณการปรับฐานในทางลบ ตลาดยังคงเผชิญความผันผวนและความไม่แน่นอนสูง แต่ ‘เครื่องชี้ทางเทคนิค’ และ ‘แนวโน้มอดีต’ ต่างยืนยันมุมบวกในระยะถัดไป
ความคิดเห็น 0