กลุ่มสมาคมการค้าชั้นนำของสหราชอาณาจักรได้เรียกร้องอย่างเป็นทางการให้รัฐบาลรวมเทคโนโลยี *บล็อกเชน* ไว้ในโครงการความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระหว่างอังกฤษและสหรัฐฯ หรือที่รู้จักในชื่อ *UK-US Tech Bridge* โดยเน้นว่าเทคโนโลยีนี้จะเป็น ‘หัวใจของระบบการเงินแห่งอนาคต’ และเตือนว่าหากถูกมองข้าม อาจทำให้สหราชอาณาจักรเสียเปรียบในการแข่งขันระดับโลก
จดหมายร่วมจาก 12 สมาคมการค้าที่เป็นตัวแทนภาคการเงิน เทคโนโลยี และสินทรัพย์ดิจิทัลของอังกฤษ ซึ่งส่งถึง *ปีเตอร์ ไคลล์* รัฐมนตรีด้านธุรกิจ และ *ลูซี ลิกบี* รัฐมนตรีเศรษฐกิจจากกระทรวงการคลัง ได้ย้ำว่ารัฐบาลควรบรรจุ *เทคโนโลยีบัญชีแจกแจง (DLT)* ในแผนความร่วมมือกับสหรัฐฯ โดยจดหมายฉบับนี้ถูกยื่นไม่นานก่อนการเดินทางเยือนอังกฤษของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นช่วงเวลาที่มีนัยสำคัญต่อทิศทางความร่วมมือในอนาคต
ในจดหมาย ระบุชัดว่า “หากตัด *สินทรัพย์ดิจิทัล* ออกจากโครงการ *UK-US Tech Bridge* เท่ากับการพลาด *โอกาสสำคัญยิ่ง*” พร้อมเตือนว่า “ในขณะที่ประเทศในตะวันออกกลางและเอเชียบางส่วนเริ่มเป็นผู้นำในการตั้งมาตรฐานด้านการเงินโลก อังกฤษอาจตกขบวนได้” โดยยกตัวอย่างเช่น *อาบูดาบี โกลบอล มาร์เก็ต (ADGM)* และ *ธนาคารกลางแห่งสิงคโปร์ (MAS)* ที่ปัจจุบันเร่งวางแนวกฎหมายที่เป็นมิตรกับสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อดึงดูดนักลงทุนและกำหนดมาตรฐานทางเทคโนโลยีในระดับโลก
ความเคลื่อนไหวนี้ยิ่งได้รับแรงหนุนหลังประธานาธิบดีทรัมป์มีท่าทีที่สนับสนุน *บล็อกเชน* และ *คริปโตเคอร์เรนซี* อย่างชัดเจนมากขึ้น โดยในช่วงดำรงตำแหน่งก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยแสดงจุดยืนสนับสนุนการใช้ประโยชน์ทางนโยบายจากเทคโนโลยีบล็อกเชน และมีแนวทางที่เป็นมิตรต่ออุตสาหกรรมคริปโตในภาพรวม
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลมองว่า ข้อเสนอนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของรัฐบาลอังกฤษ “เวลานี้คือจังหวะเหมาะสมที่สุดที่อังกฤษและสหรัฐฯ ควรเริ่มความร่วมมือด้านบล็อกเชนอย่างเป็นรูปธรรม” หนึ่งในสมาชิกของ *สมาคมบล็อกเชนแห่งสหราชอาณาจักร* กล่าว
ประเด็นว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักรจะยอมรับ *เทคโนโลยีบล็อกเชน* เป็นแกนกลางของการร่วมมือกับสหรัฐฯ หรือไม่นั้น กำลังกลายเป็นสัญญาณชี้วัดว่าอังกฤษจะมีบทบาทอย่างไรในระบบการเงินดิจิทัลระดับโลกในอนาคต โดยเฉพาะหากถูกวางบนโต๊ะเจรจากับ *รัฐบาลทรัมป์* ความสำคัญของประเด็นนี้จะยิ่งทวีคูณ
ความคิดเห็น 0