ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบาย สถานการณ์ที่น่าจับตามองเกิดขึ้นในตลาดคริปโต เมื่อมีการถอนบิตคอยน์(BTC) ออกจากแพลตฟอร์มเทรดขนาดใหญ่อย่างคอยน์เบส มูลค่าราว 75.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,051 พันล้านวอน โดยทั้งหมดถูกโอนเข้า *กระเป๋าใหม่* ที่ไม่เคยมีประวัติการทำธุรกรรมมาก่อน ซึ่งสร้างความสนใจในหมู่นักลงทุนในวงกว้าง
ข้อมูลธุรกรรมขนาดใหญ่ดังกล่าวถูกรายงานโดย Whale Alert บริการติดตามธุรกรรมบนบล็อกเชน ซึ่งระบุว่าบิตคอยน์จำนวน 650 เหรียญถูกถอนออกมาจาก ‘กระเป๋าร้อน’ ของคอยน์เบส ไพรม์ โดยกระเป๋าปลายทางยังไม่มีสินทรัพย์อื่นๆ อยู่ในครอบครอง *ความคิดเห็น* นักวิเคราะห์บางรายมองว่าการย้ายสินทรัพย์ไปสู่กระเป๋าที่ไม่มีประวัติการใช้งาน อาจสะท้อนความตั้งใจในการถือระยะยาว มากกว่าจะเป็นการขายทำกำไรในระยะสั้น
ช่วงเวลาดังกล่าวถือว่าบังเอิญหรืออาจตั้งใจ เนื่องจากเป็นวันที่ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ มีแนวโน้มจะแถลงลดดอกเบี้ยนโยบาย โดยตลาดได้ตีมูลค่าการปรับลดไว้แล้วที่ 0.25 จุด (25bps) บางสถาบันการเงินคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยอาจปรับลดลงมาสู่ระดับ 3.50–3.75% ภายในปีนี้
การคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยนโยบายส่งผลบวกต่อราคาบิตคอยน์ โดยล่าสุดราคากลับมายืนเหนือระดับ 117,000 ดอลลาร์ หรือราว 1.6 พันล้านวอน หลังจากที่เมื่อต้นเดือนกันยายนเคยร่วงลงต่ำกว่า 112,000 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองคำก็ขยับขึ้นสู่ระดับใกล้ 3,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำสถิติสูงสุดใหม่ก่อนมีแรงขายทำกำไรออกมา
ประเด็นที่นักลงทุนถกเถียงกันอยู่ในตอนนี้ คือการโอนสินทรัพย์จำนวนมากครั้งนี้เป็นเพียงการจัดพอร์ตสินทรัพย์อย่างธรรมดา หรือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์เพื่อชี้นำจิตวิทยาตลาดกันแน่ แม้ **ปริมาณการถอน** ดังกล่าวจะสามารถตีความได้ว่าเป็น *สัญญาณเข้าซื้อที่แข็งแรง* แต่การเคลื่อนไหวเช่นนี้ก่อนเหตุการณ์สำคัญอาจเพิ่มความสับสนให้แก่นักลงทุนจำนวนมาก
เหนือสิ่งอื่นใด ด้วยสภาพคล่องของตลาดที่ยังถือว่า ‘แคบ’ เพียงแค่การเคลื่อนไหวจากนักลงทุนรายใหญ่หรือกลุ่มเดียวก็อาจกระทบต่อราคาสินทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นการตัดสินใจของเฟดในเรื่องดอกเบี้ย รวมถึงปฏิกิริยาตอบสนองของตลาด จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของแนวโน้มราคาบิตคอยน์และตลาดคริปโตในระยะกลางถึงสั้นต่อไป
ความคิดเห็น 0